Mini trip เส้นทางสังคม-เชียงคาน Part 1

30-30 กรกฎาคม 58 เข้าพรรษา ที่อำเภอสังคม - เชียงคาน Part 1.

แผนการเดินทาง

นั่งรถทัวร์ไปลง อ.สังคม

สังคม - ปากชม 70 กม. เลียบลำน้ำโขง

ปากชม - เชียงคาน 40 กม. เลียบลำน้ำโขง

รถพับ4คัน รถใหญ่3คัน รวม 7 ชีวิตพอดี

ท่องเที่ยวระยะสั้น ขี่สบายๆ ไปพักผ่อน นอนบนรถ2คืน พักปากชม1คืน เชียงคาน1คืน 

เส้นทางเลียบลำน้ำโขงตลอดเส้นทาง มองแต่แม่น้ำจนชินตา คิดถึงเขาสูงๆทางเหนือ

ครั้งนี้ได้ประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน เคยกลัวแต่รถไฟไทยถึงช้า ครั้งนี้โดนรถทัวร์เข้าเต็มๆ โดยรถทัวร์สมบัติทัวร์ของผมกำหนดออก 20.00 น. อู่วิภาวดี ทำงานจนหยดสุดท้ายยัดของใส่กระเป๋า ปั่นจักรยานออกจากบ้านซอยอ่อนนุชหกโมงหน่อยๆ รถติดตั้งแต่บางกะปิยันปากทางลาดพร้าว ติดแบบแทบไม่มีรถขยับเลยระหว่างที่ลัดเลาะมา สงสารคนขับรถจริงๆ แต่ผมใช้เวลาแค่ชั่วโมงสิบนาทีถึงอู่สมบัติทัวร์วิภาวดีเสียแล้ว ผิดคาด เพื่อนอีกสี่คันมากันเฉียดฉิว แทบจะไม่มีเวลากินข้าวเย็นกันเลย ปรากฎว่าผู้โดยสารมาไม่ทันรถกันมาก รถเสียเวลาแทบทุกคัน สรุปว่า รถออกเดินทาง 21.30 ช้าไปชั่วโมงครึ่งเลย ออกมาถึงก็มาสงสาร พขร รถผมจริงๆ ติดงอกแงกไปตลอดทาง รู้สึกตัวอีกทีจอดกินข้าว ดูเวลาโอ้ ตีสี่กว่า ข้าวเช้าเลยดีไหมเนี่ย พอรู้ที่กินข้าวยิ่งตกกระใจหักขึ้นไปอีก โอ้พระเจ้า เพิ่งเลยโคราชมาหน่อยเดียวยังไม่ครึ่งทางเลย ขึ้นรถหลับต่อ หลับมันทั้งฟ้าสาง จนสว่าง โอ้พระเจ้า ถึงอำเภอสังคมเที่ยงครึ่งพอดี นั่งกันสิบแปดชั่วโมง เมาบกกันเลยทีเดียว ข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน ปวดขี้ก็อั้นไว้ ลงมากินข้าวเที่ยงเสร็จบ่ายโมงกว่า วางแผนจะปั่นสบายๆ วันนี้แค่70กิโล หายไปเฉยๆครึ่งวัน ทุบสถิติรถไฟไทยไปเลย ถือเป็นสีสันของทริปนะครับ ไม่ว่ากัน

ขออัพเดทการนำจักรยานขึ้นรถทัวร์สำหรับเที่ยวนี้
ขาไป สมบัติทัวร์ Vip รถพับ4คัน เสือภูเขา2 มีสมาชิกแยกไปสายอื่นชื่ออะไรจำไม่ได้ ชื่อเป็นตัวเลข
สมบัติทัวร์รถชั้นเดียว แต่วันนั้นคนเยอะ กระเป๋าเยอะพอเห็นจักรยานไปจอดเที่ยบห้าคัน งอแงทันที แต่พอจับพับไปซะสามคันค่อยสงบหน่อย ยัดไปได้หมด ขอโวยไว้ก่อน โดนค่าระวางไปคันละร้อย น้องพับก็เช่นกัน ส่วนเพื่อนอีกบริษัท เป็นเสือภูเขาไปโชคดีนัก ขนาดไปคนเดียวยังจะไม่ยอมให้ขึ้น สุดท้ายก็ไปได้ แต่โดนค่ารถไป300บาท

 เริ่มต้นกันที่อำเภอสังคม มาถึงเกือบเที่ยงแล้ว จากกำหนดเดิม หกโมงครึ่ง เพราะรถติดช่วงเทศกาล นั่งมาสงสารคนขับรถจริงๆ

ปกติจะขี่กันระหว่างหนองคาย เชียงคาน ได้ทั้งไปทั้งกลับ แต่ผมตัดหนองคายออกเพราะเดียวนี้รถทัวร์วิ่งไปถึง อ.สังคม ย่นระยะไปได้หลายสิบโล ทำให้ไม่ต้องขี่ไกลเกินไป ใช้เวลากับทิวทัศข้างทางแบบสบายๆ และช่วงหนองคายมา ยังไม่เรียบแม่น้ำโขงมากนัก ไม่สวย มีรถขนาดใหญ่เยอะ ถ้าจะเรียบแม่น้ำต้องใช้เส้นทางตามหมู่บ้าน หลงเอาได้ง่ายๆ

กระเป๋ากันน้ำ เอามาห้อยหน้าแฮน ใส่กล้อง ของใช้ติดตัว กลับมาเห็นว่า ตัวเฟรมโดยกระเป๋าถูสีถลอกหมดสวยเลย

ตลอดทางมีแน่เนินเล็กเนินน้อย รับส่งกันไปสนุก ขี่มันจนไม่อยากหยุด ไม่มีเขาหนักๆ เลย มีร่มไม้ตลอดทาง ลมเย็น ยิ่งช่วงหน้าฝนสองข้างทางเขียวสดชื่น นาข้าวเต็มไปด้วยต้นกล้า น้ำเต็มนา มองดูอุดมสมบูรณ์มากๆเลย ยิ่งฝนตกปรอยๆ ขี่ตากฝนสดชื่นบอกไม่ถูก ถนนตั้งแต่สังคมไป รถน้อยมาก นานๆผ่านมาคันนึง ร้านค่าหมู่บ้านมีให้เห็นตลอดทาง ทริปนี้หาห้องนอน ซื้อข้าวกิน ยกเว้นกาแฟสด ต้องแบบไปสำหรับตอนเช้าๆ แต่มีคนเห่อเต้นท์ใหม่แบบกันไปหลายคน

วันแรก 70 กม. สังคม ปากชม นอนบ้านญาติ
วันที่สอง 40 กม. (เอง) ปากชม เชียงคาน แวะกินข้าวเที่ยงแก่งคุดคู้ หาที่พักเชียงคาน เปลี่ยนเป็นเดินเล่นชมถนนคนเดิน(ขณะที่คนอื่นเช่าจักรยาน เราอยากเดิน)
วันที่สาม อยากไปภูท็อก บ้านวัฒนธรรมไทดำ ชมวัดต่างๆ เย็นนั่งรถทัวร์ แอร์เมืองเลยกลับ กทม.
เป็นแผนการง่ายๆ ทริปนี้มีสมาชิกรับเชิญมาสองคัน เลยจัดโปรแกรมเบาๆ ถือเป็นการพักผ่อน รอจัดหนักสิ้นปีทีเดียว

อาทิตย์ที่แล้วไปล้มในแทรค อาทิตย์นี้มาปั่นไป ทำแผลไป แค่นี้เรื่องเล็กน้อย

เส้นทางสวยๆ เป็นเนินลาดๆ ขึ้นลง ขี่สนุกดี รถพับไปได้สบาย

เริ่มปั่นอย่างสดชื่นที่อำเภอสังคม หลังจากนั่งอยู่บนรถสิบกว่าชั่วโมง เส้นทางช่วงนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ปั่นยาวๆ เลียบลำน้ำโขงไปตลอดเส้น มีเนินเขาเล็กๆสลับไปมา ได้ความจากชาวบ้านว่าก่อนเรามาสามสี่วัน ฝนตกทั้งวันทั้งคืนอยู่หลายวัน แม่น้ำโขงก็เพิ่งขึ้นมาเต็มตลิ่งเมื่อสองวันนี้เอง โชคดีจริงๆ ระหว่างทางมีฝนตกปรอยๆ เป็นหย่อมๆ ทำให้อากาศชดชื่นดี ไม่เปียกด้วย

เลียบเลาะแม่น้ำโขงกันไปตลอดทาง ดูกันเบื่อไปเลย

ชาวบ้านกำลังดำนากันอยู่ เลยไปฝึกดำนากับเค้าบ้างสนุกดี

ถึงปากชมเกือบมืดเหมือนกัน เพราะว่าเริ่มปั่นกันช้ามาก ปรากฎว่าบ้านญาติที่ติดต่อไว้ ไม่สะดวก ต้องเปลี่ยนมาพักรีสอร์ทหน้าบ้าน ได้ห้องพักราคาไม่แพง ตกเย็นออกปั่นปั่นรถเล่นไนท์ทริปชมเมืองปากชม หาปลาแม่น้ำโขงรับประทานกัน อาหารอร่อย ราคาแบบบ้านๆ แต่ผมกินแล้วรู้สึกผงชูรสเยอะไปหน่อย  สี่ห้าทุ่มก็เข้านอนกัน 

มาปั่นเล่นไนท์ทริปกันตามประสาคนกรุง นอนดึก ชาวบ้านแถวนั้นสองทุ่มกว่าก็ปิดบ้านกันหมดแล้ว
พรุ่งนี้ระยะทางไปเชียงคานแค่สามสิบกว่ากิโล  ทางเรียบ ไม่ชัน ปั่นเลียบแม่น้ำกันสบายๆ

ต่อตอนสอง กดเลย