Sunday, 6 March 2016

Micro adventure มหาชัย ทะเลกรุงเทพฯ

Micro adventure : มหาชัย

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2559  เส้นทางมหาชัย ร้อนจนแทบสุก

ออกจากบ้านแต่เช้า คิดว่าอากาศดีๆจะขี่ไปเรือยๆ สุดท้ายใช้บริการรถไฟไทย จากสถานีวงเวียนใหญ่ ไปถึงมหาชัย ฟรีจากภาษีประชาชน

รถไฟขบวน 07.00 น. เทียบชานลาเวลา 07.10 ช้าไปนิด ถึงมหาชัยเวลา 08.10 น. สอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องรถไฟไปแม่กลองที่ปิดซ่อมตั้งแต่ปีที่แล้ว ตามกำหนดควรเสร็จไม่เกินสิ้นปี แต่ได้คำตอบว่ายังไม่เปิดให้บริการ อดไป
เปลี่ยนแผนเป็นไปแค่มหาชัยแล้วค่อยปั่นเล่นแวะตามรายทางไปเรื่อยๆ กลับบ้านแทน จะไปแวะดูศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลย ซึ่งสองปีก่อนเคยมาทำกิจกรรมปลูกป่าชายเลนไว้ด้วย

ชีวิตผู้คนริมทางรถไฟ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง  ดูเหมือนจะตรงข้ามกับถนน ตัดผ่านตรงไหนตรงนั้นเจริญ 



รถไฟไทยวันอาทิตย์รถว่างนั่งสบาย จักรยานพับให้เรียบร้อยไม่เสียค่าระวาง เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก Slow life มากๆ เดินทางไปไกลๆได้หลายที่ ถึงจะช้าไปบ้าง จะร้อนบ้าง ถ้าเทียบกับต้องปั่นจักรยานไปแล้ว สบายกว่าเยอะ  แต่ถ้าคนไม่ชอบปั่นจักรยานอาจไม่ชอบเลยก็ได้ ทั้งร้อน ทั้งช้า เสียเวลาชีวิตจริงๆ


รถไฟโบราณอายุสามสิบกว่าปีแล้ว 

เวลานั่งรถไฟแล้วภูมิใจจริงๆ ใครๆก็ต้องจอดให้เราไปก่อน

ถึงสถานีมหาชัยแล้ว วันนี้ไฟดับทั้งเมืองเลย เห็นว่าจะต้องดับถึงสิบโมง วุ่นวายหน้าดู ใครอยากดูตลาดหุบร่มที่มหาชัยก็มีเหมือนกัน เดินออกมาจากสถานีหน่อย แต่ต้องรถไฟมาอีกชั่วโมง


ตลอดมหาชัยของสดๆจากทะเลเยอะมาก ราคาถูกกว่ากรุงเทพไม่มาก แต่ความสดนี้เหนือกว่าเยอะ  ตั้งใจจะหาปลาหมึกไข่ปิ่ง ราดน้ำจิ๋มเปรี้ยวหวานกิน เจอแต่ไม่มีไข่ ตัวโตๆ เป็นปลาหมึกจากเพื่อนบ้านนำเข้าอีกต่างหาก ที่ตัวออกน้ำตาลๆ ราคาถูกกว่าหมึกบ้านเราครึ่งนึง  ไม่กินดีกว่า


ออกจากสถานีขอไปสูดอากาศบริสุทริมแม่น้ำท่าจีนก่อน เขื่อนริมน้ำสร้างใหม่ มีลานกิจกรรมกว้าง สวยงาม วันนี้โชคดีรู้สึกอากาศไม่ค่อยเหม็นเหมือนที่เคยมา บางครั้งเหม็นไปทั้งเมือง เหม็นจนต้องรีบออกจากเมืองเลย แสบจมูกมาก

หลบความแออัดมาสูดอากาศที่ท่าน้ำก่อน 




สวนสาธารณะริมน้ำ มีที่่ออกกำลังกาย นั่งเล่นแดดไม่ร้อน


ตรงนี้ดูเหมือนวัดบางกุ้ง อัมพวาเลย


 ออกจากตัวเมืองย้อนเข้ากรุง เบี่ยงขวาไปทางโคกคาม เป็นเส้นทางเลียบคลองสรรพสามิตร มีทางออกไปทะเลหลายที่  ขี่วนในเมืองพักใหญ่ เช้าๆอยากรู้คนเมืองนี้กินอะไรกัน แต่ที่แน่ๆ ไม่กินอาหารทะเลกันเลย มีแต่อาหารเหมือนบ้านเรา จบที่เกาเหลาน้ำตกหมู ข้าวเปล่าดีกว่า ใส่น้ำตาลเยอะๆ สำรองพลังงานไว้ปั่นกลับ


แวะศาลกรมหลวงชุมพรฯ ขอพรซะหน่อย เดียวเดือนหน้าจะไปเที่ยวทะเลแล้ว



ออกจากศาลมาสักพัก เห็นป้ายศูนย์แสดงสัตว์ทะเล เป็นตึกเล็กๆตอนแรกก็ว่าจะไม่เข้า แวะไปใกล้ๆ เข้าฟรี ติดแอร์ด้วย ถือโอกาสพักร้อนสักหน่อย  เห็นบ่อน้ำเล็กๆด้านหน้า โอ๋ มีเต่าทะเล ปลาไหลมอลเล่ ให้เด็กมาป้อนอาหารได้ด้วย สุดยอด 








ด้านในตู้ปลา ไม่เยอะ แต่ดูแลดี มีปลาทะเล อุโมงปลาหลายอย่าง ถือว่าทำได้ดีทีเดียว สถานที่เล็กๆแบบนี้ ปั่นจักรยานมาเหนื่อยๆ แวะตากแอร์ เดินเล่น กินขนม ไม่เลวเลย


ปลาหูช้างฝูงใหญ่  น่าจับมาทอดกินจริงๆ


เด็กๆ สนุกกับการให้อาหารเต่า ปลาไหลมอลเล่ ไม่รู้มีใครเคยโดนงับนิ้วบ้างหรือเปล่า

ออกจากศูนย์แสดงพันธ์สัตว์น้ำ ถึงเวลาแดดร้อนจริงจังกันละคราวนี้  ใช้ถนนสายในไปได้ มีถนนขนานไป แต่บางเส้นทางไม่มีสะพานก็ต้องย้อนมาเริ่มใหม่


จุดหมายต่อไปคือ ศูนย์อนุรักป่าชายเลย ทางเข้าศูนย์ฯ อยู่ข้างนาเกลือ แต่ตอนนั้นตื่นเต้นไม่เคยเห็นนาเกลือ เห็นคนกำลังทำงานสวยดีอยากถ่ายรูป เลยลืมดูป้าย เสียดายมาก กว่าจะรู้ว่าเลยก็ถึงทางเข้าทะเลกรุงเทพซะแล้ว ไว้คราวหน้ามาซ่อมใหม่





เกลือใหม่ๆจากทะเล แอบชิมดูเค็มจนขมเลย



เจ้าตูบมันนอนสบายๆอยู่ดีๆ ใครไม่รู้มาจอดรถวิ่งไปวิ่งมา น่ารำคาญจริงๆ



มีการประท้วงกันด้วย  เลยนาเกลือมาสักพักลองแวะไปทางเลียบคลองนึกว่าจะออกทะเลได้ สุดท้ายก็ตัน ย้อนไปร่วมสิบกิโล ปากคลองก็มีแต่ร้านอาหารทะเลน่ากินทั้งนั้นเลย แต่มันบังวิวทะเลเราหมด

ปั่นไปอีกสักพักชักสงสัยว่าจะเลยทางเข้าศูนย์มาแน่เลย จนเจอทางเข้าทะเลกรุงเทพถึงแน่ใจว่า เลยแล้วนี่หว่า  ก็เลยตามเลย แวะทะเลกรุงเทพซะหน่อยก็ได้ ได้ข่าวว่าสะพานไม้พังแล้ว กลุ่มจักรยานร่วงลงทะเลกันหลายคัน
สะพานชันมากๆตรงนี้ alfine11 ขึ้นได้แบบเหลือๆเลย ตอนเอาเสือภูเขามาเฟืองหลัง 34 ยังขึ้นยาก

ปั่นทางปูนยาวๆมาสักสองกิโลก็เจอสะพานไม้ยาว 1.4 กิโล ถามชาวบ้านปากทางแล้ว พอไปได้ แต่ไปแล้วเปลี่ยวมาก ขี่เร็วก็ไม่ได้ เหมือนขี่อยู่บนระนาด เสียงกรุ้งกริ๊งๆตลอดทาง ตามทางก็มีจุดดักรถเครื่องเป็นช่วงๆ จักรยานก็ต้องลงเข็นตามระเบียบ

บางช่วงไม่หลุดไปบ้าง แต่พอไปได้ 


แบบนี้ไปได้แต่เสียว  ยิ่งไปคนเดียวเกิดพลาดละงานเข้าแน่ๆ

ขี่ๆไปเหวอครับ รู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลัง แอบชะเลืองมองหลายครั้งนะ จนต้องกุศลให้อะไรก็ได้ ไม่ต้องตามมาครับ ผมไปคนเดียวได้ มาบ่อยแล้วสวดมนต์อุทิศส่วน

จอดถ่ายรูปมันซะเลย เผื่อจะติดอะไรแปลกๆให้ตื่นเต้นบ้าง

สะพานพัง ส่วนด้านหน้าที่เป็นระเบียงกว้างๆก็พังลงน้ำไปหมดแล้ว สภาพไม่น่าไปแล้วละ ต่อไปคงไม่แนะนำ หรือชวนใครมาที่นี้แล้วครับ  มีที่สวยๆกว่านี้เยอะแยะ
ที่นี่ผมมาปั่นจักรยานตั้งแต่ตอนเปิดใหม่ๆ ตื่นเต้นมาก นับดูก็น่าจะใกล้สิบปีแล้วนะ ลาก่อนทะเลกรุงเทพ ช่วงนั้นดังมาก ใครๆก็ต้องไปกัน


ตั้งใจจะกินอาหารทะเลซะหน่อยไปคนเดียวคงสั่งอะไรมากไม่ได้ แพงโดยใช่เหตุ เลยสั่งกระเพรากุ้งปลาหมึกร้านป้าข้างๆร้านอาหารทะเล ป้าแกบอกว่าปลาหมึกช่วงนี้มีเชื้อโรคอะไรสักอย่างกินแล้วอาจตายได้ ชาวประมงเค้างดจับกัน เลยเป็นกุ้งหอยแทน  ป้าแกยกมา พูนจาน พอเปิดไข่ดาวออกมาตกใจ กุ้งเยอะมาก ตัวเล็ก ตัวโต เต็มจาน ทั้งกุ้งทั้งหอย สดอร่อย ผิดคาด น้ำตาแทบไหล ดีกว่าไปกินร้านแพงๆ แล้วสุนัขไม่รับประทาน ต้องกินข้าวคลุกน้ำตา คิดราคามา 35 บาท แทบสลบ ราคานี้สิบปีที่แล้วเลย ยังคิดว่าป้าฟันกูแน่ใส่มาซะเต็มจานแบบนี้ เลยถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย หยอดคำชมก่อนกลับอีกรอบ ยิ้มไม่หุบเลย


ออกจากร้านข้าวบ่ายโมงกว่า เส้นทางเทียนทะเลยาวๆ มาโผล่เอกชัย สิบกว่ากิโล โชคดีที่มีลมส่งตลอด แต่เริ่มหมดแรง ขาไม่มีแรงกดบันไดแล้ว มีแรงแค่ยกขาขึ้น ส่วนตอนลงใช้แรงดึงดูดของโลกช่วยเอา ความเร็วสม่ำเสมอคุมไว้ไม่เกินยี่สิบห้า แต่เร่งแซงใครไม่ไหวแล้ว

วิ่งมาเส้นเอกชัย-บางบอน มาโผล่ที่ วัดราชโอรส (วัดจอมทอง) วัดสวยดี ถือโอกาสพักหลบแดด ก่อนจะหาทางไปต่อโดยเลาะทางรถไฟข้ามคลองไปโผล่ ถ.วุฒากาศ แถววัดนางนอง





วัดนี้เป็นสิ่งก่อสร้างเป็นแบบจีนหมดเลย สวยแปลกตาดี ยังมีของเก่าๆอนุรักไว้เยอะ  รู้สึกดีตรงไม่มีพวกสารพัดรูปปั่นไว้ให้คนกราบไหว้ บริจาคเงิน มีต้นไม้ร่มรื่น ดูสมเป็นวัดหน่อย ไว้มีโอกาสต้องแวะมาอักสักครั้ง




ประตูทางเข้าโบสท์แบบจีน สวยมาก


พยายามจะเลียบทางรถไฟไป สุดท้ายไปออกตลาดพลูเลยตัดเข้าสาธร มาเจอรถติดตั้งแต่ตีนสะพานสาธร ไปจนถึงแยกศูนย์สิริกิต เนื่องจากมีงานท่องเที่ยวไทย ปั่นเลาะไปร้อนทั้งอากาศ ทั้งเครื่องยนต์ ทรมาณบันเทิงมากจริงๆช่วงนี้


ว่าจะนั่งพักซักหน่อย อดเลยเดียวกลายเป็นหมา




จบทริป 16.10 น. ถึงบ้าน ซอยอ่อนนุช  ร้อนสลบ งีบหนึ่งตื่นก่อนทันที  ทริปนี้ตากแดดมากเกินไปหน่อย ไม่ได้เตรียมเครื่องป้องกันไป และพักน้อย ปั่นยาวๆมาก


No comments:

Post a Comment