ผ่านสุขุมวิท103 ใช้เส้นทางสุขุมวิท สำโรง ปากน้ำตอนนี้รางรถไฟฟ้าสร้างเสร็จไปเยอะ คืนพื้นที่ถนนให้ เหลือแต่ช่วงเกาะกลาง และช่วงบ่ายสองขึ้นไป เงาของรางรถไฟฟ้าบังแดดให้จนถึงปากน้ำเลย สบายไม่ร้อน แต่ลมแรงมาก ต้องขี่โต้ลมตลอดทาง แต่ก็ดีไปอย่าง ขากลับก็สบายตลอดทาง
ผ่านช้างสามเศียร ข้างในตัวช้างขึ้นไปด้านในได้ เป็นที่จัดไว้ให้ไหว้พระสวยงาม ด้านล่างเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ของเก่า ค่าผ่านประตูแพงสักหน่อย ถ้ายังไม่เคยเข้าก็ควรลองเข้าไปดู ตากแอร์ข้างในเย็นดี
ข้ามเรือที่ตลาดปากน้ำ ขึ้นฝั่งที่วัดพระสมุทธเจดีย์ เรือข้ามฟากมีตลอด 24 ชม. ค่ารถ+จักรยาน 10บาท เรือข้ามฟากที่นี่ยังเป็นแบบเก่า ต้องมียกลงยกขึ้นกันบ้าง มอเตอร์ไซด์ขึ้นไม่ได้
วัดพระสมุทรฯ ปรับปรุงพื้นที่โดยรอบเสร็จแล้วสวยดี มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตก มุมถ่ายรูปสวยมาก
ตั้งใจจะข้ามไปเที่ยวป้อมผีเสื้อสมุทร เพราะเห็นสะพานข้ามสร้างเสร็จตั้งนานแล้ว แต่ไม่ยอมเปิดใช้สักที ถ้าจะไปจริงๆต้องนั่งเรือข้ามไป ไม่เอาดีกว่า
ทางแหลมฟ้าผ่า ป้อมพระจุลฯ ระยะทางประมาณ8กิโล โต้ลมแรงๆตลอดทาง ตอนนี้กำลังมีการทำถนนช่วงตั้งแต่แยกไปท่าเรือถึงสะพานคลองพิธยาลงกรณ์ ถมลูกรัง ฝุ่นเยอะ ทางแบบนี้รถพับขี่มันดี ไปได้สบาย
ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า มีเรือรบหลวงแม่กลองปลดระวางแล้วจอดให้ขึ้นไปชมได้ มีป้อมปืนเสือหมอบ มีปื่นใหญ่เก่าๆ ปืนที่ติดตั้งบนเรือ มาจัดแสดงให้ชม มีทางเดินศึกษาป่าชายเลน มีสวนสาธารณะ ร้านอาหารสวัสดิการทหารเรือ อาหารทะเลราคาไม่แพง แต่ไม่เคยเข้าไปกินสักที คนเยอะตลอด ช่วงเย็นลมเย็นสบาย มองไปเห็นทะเล เพลินดี
รอเย็น พระอาทิตย์ใกล้ตกแวะเข้าสะพานปูนไปวัดทองรำไพ เป็นสะพานปูนเลียบไปกับคลองยาวประมาณสองกิโล สะพานกว้างมอเตอร์ไซด์สวนทางกันได้ มีรั้วเหล็กกั้น หักพังไปบางส่วน สุดทางที่วัด รถยนต์ไปไม่ได้ ไปถ่ายพระอาทิตย์ตกสวยมาก
สะพานปูนยาวๆ แต่ไปสุดทางแค่วัดทองอำไพ ไปไหนต่อไม่ได้ต้องย้อนทางเดิม ถ้ามากลางวันร้อนสุดๆ ไม่มีที่หลบเลย แต่ชาวบ้านบอกว่าถึงวัดแล้วจะมีสะพานข้ามคลอง ไปได้อีก แต่จะเป็นทางเดินที่ชาวบ้านใช้กันเท่านั้น
มาช่วงเย็นๆอากาศดี ลมเย็นสบาย ปลอดโปร่งมาก สำหรับคนชอบดูนก ก่อนถึงวัดมีรังเหยี่ยวแดงหลายรัง เย็นๆจะบินโชว์ตัวกันหลายคู่ มีนกน้าหลายชนิด นกกระเต๊นสีสวยๆ เกาะตามป่าจากเป็นคู่ ดูเพลินดี ลองพยายามตามถ่ายรูปไม่ทันสักที
ตามปากคลองต่างๆที่มีสะพานข้ามจะมีคนมาตกปลากันเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นปลาเล็กๆ ถือว่ามานั่งเล่นลมเย็นๆ
เริ่มมืดปั่นตามลมสบายๆ มาข้ามเรือกลับปากน้ำ ขี่จักรยานย้อนไปวงเวียนเรือใบ เลี้ยวขวามาทางถนนสายลวด ถึงป้อมปีกกา แวะกินต้มเลือดหมูฝั่งตรงข้าม ร้านประจำ คนขายตัวอ้วนๆ หนักร้อยกว่าโล อร่อย ไม่แพง ให้เยอะมาก ยังมีก๊วยเตียวหมู ลูกชิ้นปลา เย็นตาโฟ
ขากลับออกใช้ถนนศรีนครินทร์ วิ่งตามลมกลับบ้านสบายเลย หมดเวลาชีวิตไปอีกหนึ่งวัน
Alfine note : ขากลับวิ่งตามลมสามสิบต้นๆ รอบขาสบายๆ ก่อนแยกขึ้นวงแหวน เจอจักรยาน bike to work แซงไปความเร็วแตะๆสี่สิบ รีบกดตามไปทันที ใช้เกียร์11คือหมดเกียร์แล้ว ความเร็วอยู่แถว38-40 รอบขาประมาณ 90-100 ไล่ไปจนแยกกันที่แยกเทพารักษ์ ถ้าจะไล่ตามกลุ่มที่สี่สิบขึ้นไปให้สบายคงต้องหาใบจานหน้าให้ใหญ่ขึ้นหน่อย แค่ใบจาน39ระยะยาวๆ ไม่พอแน่
No comments:
Post a Comment