Sunday, 27 March 2016

ฺBike Gear : ลำโพงพกพา

Mifa F1

ขอแนะนำของไม่เกี่ยวกับจักรยาน แต่เวลาออกทริปขาดไม่ได้ ลำโพงพกพา เสียงดีสุดยอดสำหรับลำโพงโมโน เสืยงใส เบสสุดยอด ใช้กับบูทูธโทรศัพท์ และใช้การ์ดmsd ได้ด้วยเพื่อประหยัดแบตโทรศัพท์ ถึงจะไม่เล็กที่สุด แต่คุณภาพเกินตัวไปเยอะ
ใช้พลังงานจากถ่ายชาร์จผ่าน miniusb แบบเดียวกับโทรศัพท์
เชื่อมต่อด้วยบูลทูธ สะดวกสบายไม่รกรุงรัง
เทียบกับยี่ห้อดังๆดีกว่าด้วย การประกอบแน่นหนา บึกบึน แบตเตอรี่ทนใช้ได้เกินหกชั่วโมง กันน้ำด้วย ราคาไม่แพง
ของดีราคาประหยัดเลยเอามาฝาก เวลาออกทริป ฟังเวลาปั่น หรือเวลานั่งเล่นหน้าเต๊นท์ได้บรรยากาสดีมาก บอกจากประสบการณ์ใช้จริง ไม่ได้มาแกะกล่องโม้นะ

ขอบอกว่าชอบมาก คุมเงิน คุมค่าที่แบกไปเที่ยวด้วยจริงๆ



Saturday, 26 March 2016

Crius MasterV VS IGH Alfine ตอนที่2

Crius MasterV VS IGH Alfine ตอนที่2

ตอนที่ 1
ตอนนี้เป็นการเริ่มใช้งานจริงเกิน500 กิโลไปแล้ว ขี่บ่อยๆไกลๆด้วยความอยากรู้ และจากการศึกษาข้อมูลอย่างแรกที่เป็นห่วงคือ ตามสเป็คเกียร์มีช่วงรันอินเหมือนรถยนต์ จะต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่ตอน 500แรก เพื่อให้พวกเฟืองที่เพิ่งออกผ่านการใช้งานมันบดกันได้ที่ อาจมีเศษโลหะ หรือพื้นผิวโลหะได้สึกหรอไปพร้อมกัน จะได้ไหลทิ้งไปกับน้ำมัน แล้วใส่น้ำมันใหม่ คราวนี้อยู่ได้อีก 5000 ไมล์ ตีไปง่ายๆประมาณ 10000 กิโลเลยแต่พอสอบถามราคาทั้งจากเวบ จากร้านแล้วจะสลบ น้ำมันแท้ของชิมาโน่ ชุดละประมาณ 1000 บาท จบข่าว

สอบถามเจ้าของเดิมบอกว่าเกียร์ใช้ไปไม่ถึงสองร้อยโล แต่ทิ้งไว้ปีกว่า ควรถ่ายน้ำมันได้แล้ว ตอนนี้ผมก็วิ่งพ้นรันอินไปแล้ว รู้สึกว่ามันลื่นขึ้นทีเดียว (หรือว่าอุปทาน) เรื่องถ่ายน้ำมันเอาไว้ก่อน
ผลทดลองใช้จริง
ข้อเสียที่สังเกตได้

  • ท้ายหนัก เวลาทางขรุขะ ลงหลุมรู้สึกกระแทกมากขึ้น
  • เวลาเปลี่ยนเกียร์ ต้องหยุดปั่น พอรู้จังหวะแล้วก็ไม่มีปัญหา
  • อัตราเร่งไม่ค่อยดี ขี่แบบกระชากไม่ได้ เหนื่อย หนักขามาก
  • เวลาหมุนล้อฟรี ฝืดมาก ไม่ลื่นไหล
  • เวลาปล่อยไหล ไม่ค่อยไกล ลงสะพาน ลงเนิน หมดเร็ว
  • ไม่มีเสียงฟรี เงียบมาก ขี่แล้วเหงาๆ
  • มีเสียงแก๊กๆ เวลาปั่นบางครั้ง สะเทือนมาที่เท้า

ข้อดีที่สังเกตได้

  • ขี่แล้วสบายดี ไม่รู้สึกอะไรเลย ปั่นไปได้เรื่อยๆ โล่งๆบอกไม่ถูก
  • เปลี่ยนเกียร์ง่าย นุ่มมือ อัตราทดดี คล่องตัว
  • ขี่ทางไกล ควงขาเนียมนมากไม่ต้องใช้แรงกด แค่ยกขาขึ้นมาแล้วปล่อยลงไปก็พอ
  • แรงต้านจากเฟือง โซ่ ตีนผี หายไปหมด
  • มองแล้วสบายตา เรียบง่าย  ตอนนี้ยังใช้ตัวดันโซ่ แต่อนาคตจะถอดออก
  • ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเดิมเยอะ
  • อัตราทดเกียร์ 408% ใช้งานได้กว้างพอสำหรับขี่ทั้งความเร็ว และแรงบิดสำหรับขึ้นดอย


การขี่เปรียบเทียบกับชุดเกียร์ 18 สปีด
อัตราทด เป็นปัญหาใหญ่ที่กลัว ของเก่าใช้งานได้กว้าง ตอบสนองการใช้งานได้ ทั้งความเร็วสูง
ตามกลุ่มเสือหมอบก็ได้ ใช้งานลักษณะทัวริ่ง ขึ้นดอยชันๆ ก็ได้ ถึงจะหนักขากว่ารถใหญ่ แต่ก็ถือว่าไปได้
พอมาเหลือ 11 เกียร์ พอมาเป็นเหลือแค่ 11 เกียร์ เฟืองท้าย 18 ซี่ แก้ไขเปลี่ยนแปลงอัตราทดไม่ได้
แต่หาช่วงที่เหมาะสมที่สุด ต้องแก้กันที่จานหน้า ช่วงแรกมีให้ทดลอง 3 ขนาด ตั้งแต่ 53, 48, 39
เลยยังไม่ถอดสับจานหน้าออก ติดจานหน้าสองใบไปเลย
จานหน้า 53ซี่ ของเดิมติดรถ ขี่ไม่ได้ หนักมาก ใช้เกียร์ได้แค่ครึ่งเดียวไม่มีแรงกดแล้ว (ถ้าพวกล้อ14นิ้วน่าจะดี)
จานหน้า 48ซี่ อันนี้ถอดมาจาก Crius smart3 ตัวนี้ทางเรียบดี รอบขาประมาณ 90 ความเร็วแตะสี่สิบเกินสี่สิบแล้ว เกียที่ 11 ความเร็วไปได้เกือบ50 แต่หนักมาก แต่เกียร์หนึ่ง ขึ้นดอยไม่ได้แน่ แต่ขึ้นสะพานลอย สะพานสูงในเมืองสบายๆ ถ้าไม่คิดเอาไปบรรทุกของ ไต่ดอยหนักๆ ใบนี้จบแล้ว
จานหน้า 39ซี่ เล็กสุดสำหรับขาจาน 135 ถ้าจะเล็กกว่านี้ต้องจานเสือภูเขา ใบนี้จริงๆผมว่าจบแล้ว ความเร็วตีนปลายเคยไปไล่เสือหมอบ40ได้ แต่ถ้ารอบขาขี่สบายเกาะกลุ่มความเร็ว 35 ดีที่สุด แต่เร็วกว่านี้ได้แค่เร่งแซงนิดๆ แต่เกียร์1ทำได้ดีมาก เปลี่ยนได้กับ เฟือง36ในเสือภูเขาเลย เรียกว่าเจอเนินชันๆ จอดตั้งหลักปั่นขึ้นไปเฉยเลย ควรจะจบที่จานนี้แหละ ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอาใบจาน 48ไปให้โรงกลึงปาดฟันออก ให้กลาายเป็นบังโซ่ซะเลย จะได้ไม่เละเทะเวลาไปโดน แต่ด้วยความคันดันไปเห็นจานlitepro ใบไข่ มีบังโซ่ในตัวด้วย ขนาด 42ฟัน ดูมันลงตรงช่วงว่างระหว่างความเร็วปลาย กับแรงบิดพอดี เลยสั่งผ่านaliexpressมาซะอีกใบราคาเร้าใจซะด้วย จานหน้า 42ซี่ จานใบล่าสุด รูปไข่ เพิ่งลองใส่ดู เทียบกับจาน 39แล้ว เกียร์หนักขึ้นไป1เกียร์ เดียวเป็นอย่างไร ยังไม่ได้ลองขี่ทางไกลดู

สรุปว่า ผมไม่ได้คำนวนอัตราทดอะไร ทำไม่เป็น ใช้วิธีลองมันที่ละจานแบบนี้แหละ ถูกใจอันไหนก็เอาอันนั้น ถ้าถามว่า ช่วงอัตราทด 408% จบไหม สำหรับผม ถ้า500% อย่างอีกาจบแน่ แต่คงจบชีวิตด้วย แต่408%จบแล้ว โดยยอมลดความเร็วตีนปลายลงแค่สี่สิบพอ อายุมากแล้วเกินกว่าสี่สิบเดียวหัวใจจะวาย ทางเลือกอื่น ถ้าต้องการอัตราทดที่กว้างมาก เกิน500% ในราคาประหยัด ผมอยากจะใช้ alfine8 กับใส่จานหน้าสองใบ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เวลาใช้งานในเมืองก็ใช้จานใหญ่ เวลาออกทัวริ่งทางโหดๆก็เปลี่ยนมาใช้จานเล็กแทน สับจานหน้าไม่ต้องมี ใช้มือยกโซ่เอาก็ได้



Friday, 25 March 2016

แนะนำศูนย์กีฬาบึงหนองบอน

‘ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน’ ย่านสวนหลวง ซอยเฉลิมพระเกียรติ 43

ปั่นจักรยาน เล่นกีฬาทางน้ำ เรือใบ พายเรือคยัค รวมไปถึงสถานที่ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกาย ในราคาไม่แพง สนามฟุตบอล สนามบาสฯ หรือพื้นที่สีเขียวสาธารณะที่ให้คนทั่วไปสามารถใช้เป็นที่พักผ่อน หย่อนใจ และ ออกกำลังกายกันได้ “ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน” ซอยเฉลิมพระเกียรติ 43 (ใกล้กับสวนหลวง ร.๙)
“ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน” หรือ “ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน” เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดากีฬาทางน้ำในวโรกาสทรงครอบสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา เป็นโครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริ บนพื้นที่กว่า 644 ไร่ มีบึงน้ำขนาดใหญ่ 3 บึงด้วยกัน มีทางระบายน้ำเชื่อมกันทุกบึง เพราะว่าสร้างขึ้นเพื่อป้องกันและแก้ไขน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพ แถมยังเคยใช้แข่งกีฬาทางน้ำในครั้งที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2541 และกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 13 เมื่อปี 2543 ด้วย

“ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน” มีให้เลือกกิจกรรมออกกำลังกายมากมาย ทั้งเส้นทางปั่นจักรยาน ที่ปรับปรุงและทำใหม่ ระยะทาง 4กิโลเมตร และยังมีทะเลสาบ สำหรับกีฬาทางน้ำอย่าง เรือแคนู, พายเรือคยัค, วินเซิร์ฟ, เรือใบ, เรือกรรเชียงบก, เรือ 5 ฝีพาย พร้อมทั้งอุปกรณ์กีฬาที่เป็นประโยชน์สำหรับทุกเพศทุกวัย มีสนามบอลกลางน้ำ สนามบาสเกตบอล, ตะกร้อ ซึ้งทั้งหมดนี้ สามารถมาใช้บริการและเล่นได้ทุกคน ง่าย ๆ แค่สมัครสมาชิกรายปี อายุ 8-18 ปี ค่าสมัคร 10 บาท ต่อปี อายุ 19 ปี ขึ้นไป ค่าสมัครปีละ 40 บาท เมื่อสมัครแล้วก็สามารถมาเล่นทุกอย่างได้ไม่จำกัดเลย มีห้องน้ำสะอาด ห้องอาบน้ำไว้บริการด้วย ที่จอดรถก็มีให้บริการ
ในส่วนของกีฬาทางน้ำทั้งหมด ต้องสมัครสมาชิกก่อน แล้วก็มาลงชื่อจองคิว เพราะว่าจะมีผู้สอนเป็นรอบ ๆ 14.00 และ 16.00 ของทุกวัน
หลักฐานการสมัครสมาชิก
1. รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวกขนาด 1นิ้ว หรือ 2นิ้ว จำนวน 2 รูป
2. สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ (กรณี 15ปีขึ้นไป)
3. ใบรับรองแพทย์ (กรณีสมัครสมาชิกว่ายน้ำ)












ตอนพระอาทิตย์ตก ที่นี่ถ่ายรูปสวยมาก




micro adventure : จอดไว้นาน ปั่นสักนิด

Crius Smart3 เอามาจอดไว้ที่ห้องนอนหลายวันละ ยางนิ่ม ฝั่นเริ่มจับ พอจอดในห้องก็เลยขี่เกียจยกไปปั่น อากาศร้อนๆ นั่งมองไปมองมาเอาออกไปขี่ลมเย็นๆดีกว่า
 พาไปปั่นไนท์ทริปสักรอบ ว่าจะขี่เล่นแถวบ้านนิดเดียว รถมันขี่เพลินดี ไหลไปเรื่อยๆ ออกสุขุมวิท ผ่านเอมโพเรี่ยม เจอทีมปาร์คเปิดใหม่ ไดโนเสาเวิลด์ วันนี้รอบสื่อมวลชน แวะถ่ายรูปข้างหน้า
เลยมาอโศกรถเริ่มติด รถล้อ14นิ้วเลาะไปตามถนนสนุกดี รถติดแบบนี้เพลินเลย
 แวะสยามถ่ายรูปหน่อย คนเยอะ เลี้ยวเข้าไปด้านใน ฮาร์ดร็อคคาเฟ่ เดียวนี้เปลี่ยนไปเยอะ รปภ.เดินเต็มไปหมด ดูไม่เป็นมิตรเลย
 ผ่านสยามมาโบ้เบ๊ ภูเขาทอง แวะถ่ายรูป ลมพัดเย็นรถว่างดี




สะพานผ่านฟ้าลีลาศ สร้างจากหินอ่อนดูใกล้ๆสวยมาก

 สะพานมหาดไทย

 วนเล่นในสนามหลวง


 ข้างกระทรวงกลาโหม ตอนกลางวันเป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปสวยมาก

ผ่่านเสาชิงช้า เลี้ยวขวามาออกทางเยาวราช วงเวียนเล็ก ผ่านมูลนิธิปอเต็กตึ้ง หัวลำโพง พระราม4 กลับบ้าน
ถึงบ้านพอขี่ช้าๆได้ยินเสียง ติ๊งๆๆ เช้ามาดูพบว่าซี่ลวดขาดไปหนึ่งซี่ สงสัยจะตอนกระโดดหลบหลุมที่ไหนสักแห่ง
สาเหตุที่ซี่ลวดขาดน่าจะมาจาก รถคันนี้เบา หน้าเบา ดึงง่าย กระโดดข้ามหลุมบ่อ ได้ง่าย เวลาขี่เลยไม่ค่อยเบรค เวลาเจอเนิน เจอหลุมก็จะดึงหน้าหลบบ้าง กระโดดหลบบ้าง  บางทีก็ลืมตัวลงแรงไปบ้าง เลยทำให้ซี่ลวดขาด
วิธีถอดล้อเกียร์ดุม ชิมาโน่ Nexus  (ยางแตกก็เหมือนกัน)
เช้ามาเห็นว่าซี่ลวดขาดไปหนึงซี่ ล้อแกว่งไปหน่อย รีบจัดการเลย วิธีถอดล้อเหมือนตอนยางแตก ลองทำดู ถึงจะเป็นเกียร์ดุมไม่ยากอย่างที่คิด
ให้เกียร์อยู่ตำแหน่งเกียร์สอง ปลดสายเบรคออกก่อน
ใช้หกเหลี่ยม คลายน็อตล็อคชุดเปลี่ยนเกียร์จนหลวม แล้วดึงออกมา จะเห็นมีแกนเหล็กยาวๆโผล่ออกมาจากดุม ดึงออกมาเก็บไว้ก่อน ระวังอย่าให้หาย หรือกลับข้าง
เสร็จแล้วปลดโซ่ออก โดยเอามือดันโซ่ให้เบี่ยงออกจากจานหน้า ค่อยๆหมุนล้อปลดจากจานหน้า พอโซ่หลุดแล้วก็เอาประแจเบอร์ 15 ขันน็อตล้อสองข้าง ก็ดังออกได้เลย

 พอล้อหลุดออกมา คันนี้ต้องเปลี่ยนซี่ลวด ก็จัดปล่อยลมถอดยางออก จับขึ้นแท่นใส่ซี่ลวดใหม่ ไหนๆถอดมาแล้วก็ไล่เช็คตั้งความตึง ตั้งล้อใหม่หมดเลย จะซ่อมแค่ซี่ที่ขาดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องไล่เช็คทั้งหมด เสร็จแล้วก็ใส่ยาง ย้อนขั้นตอนที่ถอด แค่นี้ก็เสร็จแล้ว 
ขนาดแทบหุ้มล้อยังยี่ห้อ Litepro เลย ของใครถอดมาไม่ใช่แบบนี้ของปลอมแน่
ไหนๆถอดมาแล้วเลยแกะยางที่หุ้มไว้กันโซ่สีกับตัวถังออกดูปรากฎว่าโดยโซ่บาดถึงเฟรมเหมือนกัน เลยใช้ยางนอกเก่าๆตัดมัดเข้าไปใหม่ เงียบดี คงอยู่ได้พักใหญ่ๆ

Wednesday, 23 March 2016

good cycling vdo clip

Touring trip ที่น่าดูจริงๆ











สองเรื่องนี้ไม่ใช้แนวทัวริ่ง เป็นแนวนำเที่ยวที่ญี่ปุ่นดีมาก








Sunday, 20 March 2016

Micro adventure : เก็บตะวันที่ป้อมพระจุลฯ

อาทิตย์นี้อยากไปนั่งเล่นลมเย็นๆถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกที่ป้อมพระจุลฯ ออกจากบ้านบ่ายสาม
ผ่านสุขุมวิท103 ใช้เส้นทางสุขุมวิท สำโรง ปากน้ำตอนนี้รางรถไฟฟ้าสร้างเสร็จไปเยอะ คืนพื้นที่ถนนให้ เหลือแต่ช่วงเกาะกลาง และช่วงบ่ายสองขึ้นไป เงาของรางรถไฟฟ้าบังแดดให้จนถึงปากน้ำเลย สบายไม่ร้อน แต่ลมแรงมาก ต้องขี่โต้ลมตลอดทาง แต่ก็ดีไปอย่าง ขากลับก็สบายตลอดทาง



ผ่านช้างสามเศียร ข้างในตัวช้างขึ้นไปด้านในได้ เป็นที่จัดไว้ให้ไหว้พระสวยงาม ด้านล่างเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ของเก่า ค่าผ่านประตูแพงสักหน่อย ถ้ายังไม่เคยเข้าก็ควรลองเข้าไปดู ตากแอร์ข้างในเย็นดี




ข้ามเรือที่ตลาดปากน้ำ ขึ้นฝั่งที่วัดพระสมุทธเจดีย์ เรือข้ามฟากมีตลอด 24 ชม. ค่ารถ+จักรยาน 10บาท เรือข้ามฟากที่นี่ยังเป็นแบบเก่า ต้องมียกลงยกขึ้นกันบ้าง มอเตอร์ไซด์ขึ้นไม่ได้

วัดพระสมุทรฯ ปรับปรุงพื้นที่โดยรอบเสร็จแล้วสวยดี มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตก มุมถ่ายรูปสวยมาก


ตั้งใจจะข้ามไปเที่ยวป้อมผีเสื้อสมุทร เพราะเห็นสะพานข้ามสร้างเสร็จตั้งนานแล้ว แต่ไม่ยอมเปิดใช้สักที ถ้าจะไปจริงๆต้องนั่งเรือข้ามไป ไม่เอาดีกว่า

ทางแหลมฟ้าผ่า ป้อมพระจุลฯ ระยะทางประมาณ8กิโล โต้ลมแรงๆตลอดทาง ตอนนี้กำลังมีการทำถนนช่วงตั้งแต่แยกไปท่าเรือถึงสะพานคลองพิธยาลงกรณ์ ถมลูกรัง ฝุ่นเยอะ ทางแบบนี้รถพับขี่มันดี ไปได้สบาย

ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า มีเรือรบหลวงแม่กลองปลดระวางแล้วจอดให้ขึ้นไปชมได้  มีป้อมปืนเสือหมอบ มีปื่นใหญ่เก่าๆ ปืนที่ติดตั้งบนเรือ มาจัดแสดงให้ชม มีทางเดินศึกษาป่าชายเลน มีสวนสาธารณะ ร้านอาหารสวัสดิการทหารเรือ อาหารทะเลราคาไม่แพง แต่ไม่เคยเข้าไปกินสักที คนเยอะตลอด  ช่วงเย็นลมเย็นสบาย มองไปเห็นทะเล เพลินดี










รอเย็น พระอาทิตย์ใกล้ตกแวะเข้าสะพานปูนไปวัดทองรำไพ เป็นสะพานปูนเลียบไปกับคลองยาวประมาณสองกิโล สะพานกว้างมอเตอร์ไซด์สวนทางกันได้ มีรั้วเหล็กกั้น หักพังไปบางส่วน สุดทางที่วัด รถยนต์ไปไม่ได้ ไปถ่ายพระอาทิตย์ตกสวยมาก





สะพานปูนยาวๆ แต่ไปสุดทางแค่วัดทองอำไพ ไปไหนต่อไม่ได้ต้องย้อนทางเดิม ถ้ามากลางวันร้อนสุดๆ ไม่มีที่หลบเลย  แต่ชาวบ้านบอกว่าถึงวัดแล้วจะมีสะพานข้ามคลอง ไปได้อีก แต่จะเป็นทางเดินที่ชาวบ้านใช้กันเท่านั้น






มาช่วงเย็นๆอากาศดี ลมเย็นสบาย ปลอดโปร่งมาก สำหรับคนชอบดูนก ก่อนถึงวัดมีรังเหยี่ยวแดงหลายรัง เย็นๆจะบินโชว์ตัวกันหลายคู่ มีนกน้าหลายชนิด นกกระเต๊นสีสวยๆ เกาะตามป่าจากเป็นคู่ ดูเพลินดี ลองพยายามตามถ่ายรูปไม่ทันสักที






ตามปากคลองต่างๆที่มีสะพานข้ามจะมีคนมาตกปลากันเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นปลาเล็กๆ ถือว่ามานั่งเล่นลมเย็นๆ

เริ่มมืดปั่นตามลมสบายๆ มาข้ามเรือกลับปากน้ำ ขี่จักรยานย้อนไปวงเวียนเรือใบ เลี้ยวขวามาทางถนนสายลวด ถึงป้อมปีกกา แวะกินต้มเลือดหมูฝั่งตรงข้าม ร้านประจำ คนขายตัวอ้วนๆ หนักร้อยกว่าโล อร่อย ไม่แพง ให้เยอะมาก ยังมีก๊วยเตียวหมู ลูกชิ้นปลา เย็นตาโฟ
ขากลับออกใช้ถนนศรีนครินทร์ วิ่งตามลมกลับบ้านสบายเลย หมดเวลาชีวิตไปอีกหนึ่งวัน

Alfine note : ขากลับวิ่งตามลมสามสิบต้นๆ รอบขาสบายๆ ก่อนแยกขึ้นวงแหวน เจอจักรยาน bike to work แซงไปความเร็วแตะๆสี่สิบ รีบกดตามไปทันที ใช้เกียร์11คือหมดเกียร์แล้ว ความเร็วอยู่แถว38-40 รอบขาประมาณ 90-100 ไล่ไปจนแยกกันที่แยกเทพารักษ์ ถ้าจะไล่ตามกลุ่มที่สี่สิบขึ้นไปให้สบายคงต้องหาใบจานหน้าให้ใหญ่ขึ้นหน่อย แค่ใบจาน39ระยะยาวๆ ไม่พอแน่