Saturday 11 April 2015

Touring trip : ภูเก็ต เกาะยาวน้อย

Touring trip : ภูเก็ต เกาะยาวน้อย

11-16 เมษา 58 สงกรานต์ปี 2558 เรามีเวลา 3 คืน ไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบเล่นสาดน้ำ หนีไปทะเลดีกว่า (ไปทุกปีเลย) เป็นทริปแรกที่ใช้รถพับไปเที่ยวกันด้วย

แผนการเดินทาง ง่ายๆ 

  • วันแรก มีสองทางเลือก ลงรถทัวร์พังงา ขี่ล่องท่องเที่ยวมาเรื่อยๆ ข้ามสะพานสารสิน เที่ยวตัวเมืองภูเก็ต กางเต๊นท์ที่ อุทยานสิรินาท หาดในยาง แถวสนามบิน หรือทางเลือกที่สอง ลงภูเก็ต เข้าเมือง ขี่อ้อมไปแถวท้ายเกาะ หาดราไว เลาะริมหาดมาเรื่องๆ กะตะ กะรน ป่าตอง ฯลฯ กลับมานอนในยาง เย็นๆ ไปชมอาทิตย์ตกที่สะพานสารสิน
  • วันทีสอง ข้ามไปนอนเกาะยาวน้อย เที่ยวๆๆ ตามสถานการณ์ 
  • วันที่สาม มีเวลาเต็มวัน จะซื้อทริปออกเรือ ฯลฯ หรือข้ามไปขีเกาะยาวใหญ่ 
  • วันที่สี่ เที่ยวครึ่งวัน กลับมาฝั่งภูเก็ต ปั่นมาขึ้น บขส กลับบ้าน 
สถานที่เที่ยว เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เป็นอย่างไร ถามgoogle ได้เลยนะครับ มีเยอะ

ของที่เตรียมไป จัดแบบใกล้เคียงกับไปรถใหญ่เลย ขาดแต่พวกอุปกรณ์กันหนาว กับข้าว อยากทดสอบประสิทธิภาพจักรยานด้วย รวมๆ สองกระเป๋า และวางตะแกรง บวกห้อยหน้าแฮน ประมาณ 14 กิโล บวกคน 60 โล รถ 11 โล รวม 85 โล ใกลๆ ลิมิตที่แนะนำสำหรับรถพับ คือไม่เกิน 100 โล

ทริปนี้เราจองตั๊วรถทัวร์ บขส ไว้ล่วงหน้าเดือนกว่า ไปกันสามคน คิดหลายตลบเพราะรถป.1 บขส.เป็นรถสองชั้นช่องเก็บของมันเล็ก รถจักรยานปกติใช่ลำบากอยู่แล้ว ยิ่งเจอช่วงเทศกาลด้วยของต้องเยอะแน่เลย  มีความคิดอยากลองเอารถพับมาเที่ยวอยู่แล้ว ตอนนี้รถพับก็ถูกด้วย ดีด้วย เลยจัดมากันคนละคันซะเลย  


สัมภารกของพวกเรา ขนาดพับแล้วก็เยอะเหมือนกันละ ถ้าจักรยานปกติคงมีทะเลาะกับ บขส แน่ๆ เพราะนอกจากกระเป๋าผู้โดยสารแล้ว ยังมีพัสดุฝากส่งเยอะจริงๆ แน่นตู้เลย แต่ไม่เก็บค่าระวางเพิ่ม
สรุปว่า พนักงานขอให้เราลงที่สุดทางคือขนส่งภูเก็ตครับ เนื่องจากของมันอัดกันเต็มตู้คงจะรื้อออกมายากโขอยู่ 
 เจ็ดโมงกว่าก็ลงจากรถประกอบเสร็จขอสมาชิกขี่ไปหาข้าวกินในเมือง อีกประมาณ5โล ผมเองอยากเห็นเมืองเก่าๆแบบในรูปมาก เอาเข้าจริงเช้านี้ในเมืองคนเยอะมาก เห็นแล้วตาลาย แดดก็ร้อน ขอแค่ขี่ผ่านๆ แล้วก็หาร้านกินข้าวกันดีกว่า

เส้นทางจักรยานที่ภูเก็ตใหญ่ซะใจดี รถแซงซ้ายเข้ามาได้ทั้งคันเลย 555 เช้าๆ รถไม่เยอะ แต่มันมาไม่ขาดสายเลย วิ่งกันเร็วมากโดยเฉพาะพวกรถนักท่องเที่ยว หวิวๆ เหมือนกัน

กินข้าวข้างๆ ศาลเจ้าแห่งนี้เลย กินเสร็จเจ้าของร้านแนะนำให้ไปกราบไหว้ขอพรกันสักหน่อยก่อนออกเดินทางต่อ นั่งกินอ้อยอิ่งกันจนแดดร้อน ก็เริ่มตัดแผนการเดินทางออกที่ละนิดๆ


ไหว้พระกันเสร็จเราก็ออกมาขี่ถนนสายหลักผ่ากลางเกาะไปจนสุดแหลมพรหมเทพ เห็นแดดกับหลักกิโลแล้วท่าไม่ดี มีมือใหม่มาด้วย เปลี่ยนใจไปแค่หาดป่าตองดีกว่า แล้วตอนเย็นค่อยไปดูอาทิตย์ตกที่สะพานสารสินแทน จึงหันหัวเข้าปั๊มล้างหน้าล้างตาลดความร้อนแล้วก็ขวายาวๆ ไปหาดป่าตองทันที พ้นถนนสายหลักมาสักพักก็เจอเนินมาต้อนรับทันที ดีใจนะ จะได้ถือโอกาสทดสอบ ทางค่อยๆ ชันขึ้นๆ แต่ก็ไปได้เรื่อยๆ ชักเริ่มมั่นใจ Crius 2 คัน มีจานหน้าสองใบ สบายอยู่แล้ว แต่ giant expressway นี่สิ จานหน้าใบเดียวจะไหวอะเปล่า

สรุปว่าไม่เข็น แต่เหนื่อยมาก ต้องมานั่งพักรอ crius อีกคัน มือใหม่ค่อยๆ ไต่มาเช่นกัน มาจนยอดเนินได้ครบ ไม่มีใครเข็นพอพ้นศาลบนยอดเขา ทางลงยาวคดเคียวพองาม ผมก็ปล่อยมาสบายๆ ไม่เกินห้าสิบ แต่ crius อีกคัน ไม่คุ้นมือเอาไม่อยู่ เลยได้ใช้บริการศูนย์ช่วยเหลือฯ พาไปทัว รพ.ป่าตอง บาดเจ็บนิดหน่อย ถือว่าฟาดเคราะไป ยังดีเช้าแวะไหว้พระไว้ ผ่อนหนักเป็นเบา ไปต่อได้ทั้งรถทั้งคน แต่คนจะหนักกว่ารถหน่อย ได้ปลอกแขนลายใหม่มาโชว์ด้วย




ที่หาดเตรียมงานสงกรานต์ มีงานชุมนุมบิ๊กไบค์ด้วย ทีแรกคาดว่าคงต้องค้างแถวป่าตอง แต่ดูแล้วพรุ่งนี้คงคนยั้วเยี้ว รีบหนีดีกว่า บรรยากาสเหมือนหาดพัทยาใต้เลย แต่หาดสวย ฟ้าใสกว่าเยอะ


ออกจากหาดมาหน่อย ทางเป็นเนินสลับขึ้นๆ ลงๆ เลาะไปริมทะเล แวะกินข้าวกลางวันกันเสร็จ ดูจากระยะทาง บวกอาการเพื่อนร่วมทางแล้ว ตัดสินใจเหมารถกะป้อไปหาดในยางเลยดีกว่า พรุ่งนี้เช้าจะได้ไปถ้าเรือใกล้หน่อย ขี่ไปคงทุลักทุเล จะนอนแถวป่าตองก็ไม่สงบเลย 


ตอนแรกกะป้อโชว์ป้ายแบบฝรั่งเลย ตั้ง1000 ขอต่อเหลือ 600 ทั้งของทั้งรถทั้งคนเต็มคันพอดี ไกลเหมือนกัน ถ้าขี่มาคงแย่ สี่โมงก็ถึงหาดในยางถ้าไม่เจ็บเส้นนี้น่าจะขี่สนุก ระยะทางไม่ไกลสำหรับวันเดียว มีเนินขึ้นๆ ลงๆ รถก็ไม่เยอะมาก 


ลานกางเต๊นท์หาดในยาง เจ้าหน้าที่ไม่แนะนำให้กางบริเวณหน้าหาดที่เป็นลานสน เล่าว่าเมื่อเร็วๆนี้ มีมานอนแล้วโดนกิ่งสนหล่นใส่ ตอนนี้ยังอยู่ไอซียูอยู่เลย แต่ก็เงียบดี ถ้าหน้าหาด คนเยอะ วงเหล้าใหญ่ๆ ทั้งนั้น 


ได้ที่นอนแล้วแดดร่มลมตกก็ออกไปขี่เล่น หาของกินเรื่อยเปื่อย จนมืดก็กลับมานอน โชคดีไม่มีฝน เช้ามาน้ำค้างยังไม่มีเลย เต๊นท์แห้งสนิท 

ทิวสนสวยๆ ยามสายหาดในยาง เห็นแล้วนึกถึงหาดนวกร อยากไปถ่ายรูปหาดสวยๆ แต่พบว่าถึงคนไม่มีแล้วเหลือทิ้งไว้แต่ขยะจากเมื่อคืน เล็งมุมไหนก็เจอแต่ถุงพลาสติก กล่องโฟม เปลี่ยนใจไปอาบน้ำเก็บเต็นท์เตรียมเดินทางดีกว่า ปกติเจ้าหน้าที่คงดูแลดี แต่ช่วงเทศกาลคนเยอะ ไหนจะมีกิจกรรมริมหาดอีก ต้องทำใจครับ

ทริปนี้เราต้องไปทัวสถานพยาบาลทุกเช้าเป็นกิจวัตรครับ ก่อนออกเดินทาง  ทำแผล กินข้าวเสร็จ เราก็ขี่กันอีกประมาณ 15 กิโล ไปท่าเรือบางโรง เป็นถนนสายรองทาง เข้าท่าเรือเล็กนิดเดียวเหมือนซอยเข้าบ้านคน



เราใช้บริการเรือช้า ที่ท่าบางโรง เรือวิ่งเป็นเที่ยว รอบเก้าโมง เที่ยงครึ่ง และบ่ายสาม เราไปรอบเที่ยงครึ่ง ราคาคนละ 120 ค่ารถพับ 20 ถ้าเรือเร็วมีทุกชั่วโมงคนละ 200 จักรยานประมาณ 100 บาท เรือช้าใช้เวลา 1 ชม ก็ถึง นั่งสบายๆ ลมเย็นๆ 

ถึงเกาะยาว แพ็ครถเสร็จก็พร้อมเดินทาง เนื่องจากเราไม่ต้องง้อรถรับจ้างก็เลยไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ ที่กินที่นอนไปหาเอาดาบหน้า โดยตั้งใจว่าจะหาที่กางเต๊นท์ หรือโฮมสเตยพักกัน ถ้าไม่เน้นถูกที่พักเยอะ รีสอท บังกะโล มีหลายที่แต่สำหรับเราขอราคาประหยัดเพื่อรสชาดของชีวิต



คนบนเกาะคนแรกที่ได้สนทนาด้วย เปิดร้านขายภาพ เป็นภาพเขียนสีน้ำมัน สวยจนต้องย้อนกลับมาดู อัทยาศัยดีครับ แนะนำข้อมูลต่างๆ ได้มาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะเน้นที่พักที่มีราคา สำหรับที่กางเต๊นท์ไม่มีข้อมูล หลังจากรู้ว่าแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่แถวแหลมไซรเลยไป คือทางทิศเหนือ เราก็หาเสบียงใส่ท้องแล้วก็เริ่มมุ่งไปแหลมไซร์ทันที เพิ่งจะบ่ายสองเวลาเหลือเยอะ 



ขี่มาจนจะถึงแหลมไซร์ ฝนก็เทลงมาแบบไม่ทันตั้งตัวกันเลย ต้องรีบหาที่หลบให้คนเจ็บก่อน เห็นบังกะโลสร้างใหม่ข้างทางปิดอยู่เราก็รีบหลบที่ชายคาทันที พอฝนเริ่มแรงก็แอบขึ้นไปบนระเบียง เห็นกุญแจเสียบอยู่ อ้าวไม่ได้ล็อคเลยลองไปสำรวจดู จนได้เบอร์โทรลองเช็คได้ความว่า สร้างไว้ให้เช่ารายเดือน บ้านที่เราอยู่คนเช่าจะมาวันพุธ เราเลยขออยู่สักสองวัน แบบราคาพิเศษกันเลย น้ำไฟ ทีวีตู้เย็นเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อม สบายไป 




ได้ที่อยู่เป็นหลักแหล่งคราวนี้ก็หมดห่วง คนป่วยก็สบาย คนไม่ป่วยก็สบาย ฝนฟ้าก็เอาแน่ไม่ได้ เวลาที่เหลือก็ขี่เล่น เที่ยวถ่ายรูป หาของกินกัน ร้องเพลง ชมทะเล ไม่ต้องมาตะลอนทัวร์ สบายไปอีกแบบ 
พักผ่อนกันคนละงีบก็ออกขี่เล่น ไปแถวแหลมไซร์ เจอพระอาทิตย์กำลังตกทะเลสวยได้จังหวะเลย มีเรือยอชมาจอดลอยลำเป็นฉากหน้าให้ด้วย ดูไฮโซไปเลย 







เท่าที่ดูชาวบ้านบนเกาะนี้ใช้จักรยานกันเยอะ เสือภูเขาดีๆมีกันแทบทุกบ้าน กลางคืนก็จอดไว้หน้าลานบ้าน คงไม่มีขโมย เป็นกทม.คงเรียบร้อยไปแล้ว 
ตกค่ำก็ขี่ไปหาข้าวกินในเมือง ได้ที่นอนถูกแล้วมือนี้ขอหรูหน่อย มาทะเลทั้งทีจัดไปสี่อย่าง
ตบท้ายด้วยของหวานอีกชุดใหญ่ อิ่ม ร้านชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว อาหารอร่อย ราคาไม่แพงด้วย



บนเกาะส่วนใหญ่เป็นอิสลาม จึงไม่มีร้านเหล้า ทำให้มีร้านขนมหวานหลายร้าน ตอนค่ำก็มีร้านโรตี ชา ชม ขายกันหลายร้าน วันนี้เราลองร้านโรงนม ดูฮิปๆ มีวัยรุ่นบนเกาะมานั่งกินกันเยอะ มีทั้งของหวานของคาวขาย

วันที่สองบนเกาะยาวน้อย เราจะขี่เล่นกันให้รอบเกาะ ถนนหลักมีเส้นเดียววนรอบเกาะ แต่ก็มีแยกไปที่ต่างๆได้อีกหลายทาง แต่จะเข้าไปสุดทางที่หมู่บ้านบ้าง ชายหาดบ้าง ไม่ทะลุถึงกัน ถนนลูกรังบ้างสลับกันไป เส้นทางหลักรอบเกาะประมาณ 20 โล แต่ขี่กันจริงๆ วกไปวนมาได้มาเกือบสี่สิบโลเหมือนกัน
เริ่มจากช่วงเช้า ไม่ต้องรีบ เพราะโรงพยาบาลเปิดสาย แวะกินข้าวกระเพราะปลาหมึกไข่ดาวที่เมื่อคืนแอบเห็นโต๊ะข้างๆ สั่งกัน ปลาหมึกสดๆ เยอะมาก ราคาแค่ 60 บาท กินเหมือนกันทั้งสามคนเลย จากนั้นแวะทำแผลโรงพยาบาลเกาะยาวชัยพัฒน์ บริการดีครับคนน้อย กว่าจะออกเดินทางจริงก็เก้าโมงแดดเริ่มร้อนแล้ว

บนเกาะเล็กๆนี้มีทุ่งนาปลูกข้าวถึงห้าร้อยไร่ ใช้ควายปลูกกันทำให้คนบนเกาะนี้มีไม่ต้องซื้อข้าวกิน ข้าวที่ปลูกได้จะไม่ส่งขายแต่เก็บไว้กินทั้งปี ประชากรส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90 นับถือศาสนาอิสลาม เพราะฉะนั้นไม่มีหมู หมา และสุราบนเกาะ (อย่างหลังก็เริ่มมีบ้างแล้ว) มีเซเว่นอยู่ที่อำเภอ1สาขา ค่าครองชีพไม่แพง แต่ร้านเล็กๆ ก็มีแอบแพงกับนัก่ท่องเที่ยวเหมือนกัน
Crius master V
Giant Expressway 1
เริ่มจากเซเว่นก่อน ผ่านหมู่บ้าน ชุมชนเล็กๆ จากนั้นตัดออกมาทางทุ่งนา เสียดายช่วงนี้ทุ่งนาเพิ่งจะเกี่ยวข้าว ปล่อยทิ้งร้าง ไม่สวยเลย ขี่ไปเรื่อยๆ  ถึงท่าเรือต้นดู่ มีร้านประดู่ซีฟู๊ด และชุมชนชาวประมงตั้งอยู่ มีโฮมสเตย์ด้วย แวะไปถ่ายรูปกันสักนิด ก่อนมุ่งหน้าไปบ่อน้ำศักสิทธิ์ 

ลงไปชาวหาด มีป่าชายเลนสลับกับหิน เป็นตาน้ำจืดริมทะเลน้ำจืดสนิท มีตำนานว่าประมาณว่า นานมาแล้วมีคนแก่มาเข้าฝัน พาไปที่บ่อน้ำ ซึ่งน้ำจืดสนิท เวลาน้ำขึ้นจะเป็นทะเลพอน้ำลงจะมีบ่อน้ำเล็กๆ เป็นน้ำจืด ให้เอาน้ำไปให้คนป่วยดื่มตรงนี้ ไปให้คนป่วยดื่มแล้วก็หายจากโรค จากนั้นก็เป็นที่แพร่หลายไปทั่ว บางคนมาจากฝั่งเพื่ออาบ กิน หายจากโรคต่างๆ ได้ เพื่อนเราก็ทากันใหญ่ หน้าจะได้ใสปิ้ง 555 





ต่อจากบ่อน้ำฯ เราก็มุ่งขึ้นเหนือไปตามทางเรียบหาดไปเรื่อยๆ ดูว่ามันจะสุดทางที่ไหน ทางเริ่มเป็นลูกรัง ด้านซ้ายเป็นหาดทรายไม่สวยแต่ธรรมชาติมาก ตลอดหาดมีทิวมะพร้าวสวยๆ ด้านขวาเป็นภูเขา มีบ้านชาวประมงปะปราย เราวิ่งไปจนสุดทาง ไปต่อไม่ได้ แต่มีแคบๆ ให้จักรยานลุยไปได้ ชาวบ้านบอกว่าข้ามเขาไม่ไกลนักไปก็จะมีหาดทรายสวย แต่คงไม่เหมาะะที่จะลุยเข้าไป ย้อนกลับทางเดิมเพื่อไปอีกด้านของเกาะ วิ่งมาสักพักฝนก็เทลงมาซะงั้น ต้องหาหลบตามบ้านคน เลยได้คุณกับคุณป้าท่านนึง เล่าเรื่องการทำยางให้เราฟังระหว่างรอฝนหยุด 

ฝนหยุดเราก็ออกเดินทางต่อ ย้อนเส้นทางเดิมมาตรงกลางเกาะแล้วมุ้งไปทางด้านเหนือ ทางด้านร่มรื่นมาก เป็นสวนยางตลอดสองข้างทาง เป็นเนินสลับขึ้นๆลงๆ สนุกดี

 ทางแบบนี้ น่าขี่ไหมละ เป็นแบบนี้ตลอดทางเลย


ตรงนี้มีขึ้นเขา 8% น่าจะเป็นจุดสูงสุดของถนน ลงเนินไปก็เป็นชายฝั่งด้านตะวันออกแล้ว


เหมือนโดนแกล้ง หรือช่วยพวกเราไม่รู้ พอถึงยอดเขา ฝนดำปี๋มาเลย แล้วก็มีศาลาอยู่ตรงนั้นพอดี พอเข้าไปฝนก็เทลงมาอย่างแรง ทั้งลมทั้งฝน ดูท่าไม่หยุดง่ายๆ เอาเปลออกมากางนอนหลับกันคนละตื่น

 มีลงเขายาวๆ ทางเปียกๆ เสียวดี
ฝนหยุดก็ไหลลงมา แล้วเลี้ยวซ้ายออกไปเส้นทางเล็กๆ เพื่อไปหาดโล๊ะบาเกา ทราบมาว่าเวลาน้ำลงจะมีประการังโผล่ออกมาเต็มไปหมด ไปได้สักกิโลทางคอนกรีตก็หมด กลายเป็นลูกรังเปียกๆ ก็พอไปได้



ลุยต่อไปสักพักเจอป้ายบอกว่าอ่าวปิด เลี้ยวเข้าไปดู โหสวย กว้างใหญ่ ลองเรารถไปขี่ปรากฎว่าทรายนิ่มครับ รถยังใหม่เสียดายไม่อยากลุยทะเล ไม่เอาดีกว่า ถ้าเป็นคันใหญ่มีเฮแน่ มองไปในทะเลไกลๆ เห็นป่าเกาะ เรียงรายเต็มไปหมด ของจริงสวยมาก


ดูเส้นทางแล้วไปต่อคงจะลำบากพอสมควร เอาเวลาไปขี่ด้านนอกดีกว่า เราก็ย้อนออกมาถึงถนนใหญ่ เลี้ยซ้ายมาหน่อยก็เจอชุมชนท่าเขา เป็นท่าเรือสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากกระบี่จะขึ้นท่านี้ ถึงตรงนี้ก็หยุดพักกันได้ มีร้านขายทัวร์ออกดำน้ำ เที่ยวเกาะ จองห้องพัก ฯลฯ คึกคักดี มีจุดชมวิวบนเขาแต่ต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อย พวกเราขี่เกียจเดินซะด้วย



จากท่าเรือไปเป็นทางเรียบทะเลตลอด มีชายหาดสลับโขดหิน เป็นรีสอทราคาแพงซะส่วนใหญ่ พอขึ้นเนินแรกก็แวะร้านกาแฟดับร้อนกัน บวกข้าวเหนียวมะม่วงอีกหนึ่งชุด ต่อจากนั้นก็มีเขาเล็กๆ ให้ข้ามอีกหนึ่งลูกก็จะเป็นหาดที่จัดว่่าสวยที่สุด คือหาดป่าทราย 


หาดป่าทรายตรงนี้มีรีสอท บังกะโลเรียงกันตลอดแนวมีชีวิตชีวาที่สุด วันนั้นเจอกรุปทัวจีนมาเที่ยวด้วย มีสีสันขึ้นมาทันที ตรงนี้มีกิจกรรมหลายอย่างทั้งเรือคายัค ทัวดำน้ำ เที่ยวเกาะ เห็นทัวร์แบบวันเดียวรวมๆกัน ประมาณคนละ 600 รวมข้าวกล่องกลางวันด้วย บ้านพักเห็นหลังมีหลายระดับเริ่มประมาณ 800 ขึ้นไป ชายหาดตรงนี้เป็นทรายเล่นน้ำได้ ทรายสีเหลืองไม่ขาวละเอียด แต่ธรรมชาติมากสวยไปอีกแบบ สุดหาดก็เป็นแหลมไซร มีถนนตัดผ่านได้เลย แป๊ปเดียวก็ถึงที่พักเรา




ก่อนถึงที่พักนิดเดียวเจอป้ายให้เช่าบ้าน น่าสนใจดีเลยลองแวะถามข้อมูล พี่เจ้าของอัธยาศัยดี อาชีพหลักทำประมง แต่พ่อแม่แบ่งที่ให้กับพี่น้องมาสร้างบ้านให้นักท่องเที่ยวเช่า อยู่ริมถนนลงเนินไปก็เป็นสนามหญ้าเลี้ยงไก่ ปลูกผัก แล้วก็เป็นหาดทรายปนหิน สวยแบบธรรมชาติ โดยมีบ้านอยู่3หลัง ถัดไปก็ของน้องอีกสองสามหลัง ราคาเช่าบ้านห้องพัดลม800 แอร์1200 บ้านมีห้องนอน ห้องน้ำ ระเบียง มีปัญญาอยู่กี่คนก็ราคาเดิม อาหารการกินก็จะสั่งทำ หรือซื้อของสดที่ตลอด หรือจะออกเรือไปหาด้วยกันก็ได้ คิดราคาไม่แพง หรือจะติดเตาถ่านทำเองสั่งของทะเลรอไว้ให้ก็ได้ น่าสนุกดีถ้ามากันสักห้าหกคน ราคาน่าจะต่อได้อีกนิดๆ หน่อยๆ ขอเก็บไว้เที่ยวหน้า



พอจะถึงบ้านอยู่แล้วปรากฏว่าเพื่อนเราลืมกระเป๋าตังไว้ร้านกาแฟ เจ้าของร้านบิดมอไซด์ตามมาบอก แต่ไม่ได้ติดกระเป๋ามา กลับไปส่งเพื่อนที่บ้านกินสัปรดที่ปลอกแช่ตู้เย็นไว้เสร็จ ซีอุยกับยักเล็กสองคันเลยถือโอกาสซิ่งกลับไปเอากระเป๋า ไปกลับ12โล มีเขาให้เล่นหนึ่งลูก ขี่กันแบบเต็มสปีดหน่อย แป๊ปเดียวก็กลับถึงบ้านสนุกดี


พักกันจนหายเหนื่อย ชวนเดินลงไปนั่งเล่นดูพระอาทิตย์ตกที่ชายหาดหลังบ้าน เดินกันไปหน่อยเดียวก็ถึงแล้ว





ออกมาชายหาดหน้าบ้านพัก รอชมพระอาทิตย์ตกน้ำ หาดแถวนี้เป็นหินเล่นน้ำไม่ได้ มีเรือประมงจอดเรียงราย แต่สวยดี ได้มุมพระอาทิตย์ตกพอดี ได้ถ่ายแสงสวยๆก่อนจะมืดอีกชุดใหญ่ น้ำขึ้นเร็วมาก บรรยากาสสวยมากครับ เป็นธรรมชาติมากๆ ขนาดเอากล้องคอมแพ็คถ่ายยังสวยขนาดนี้


พอมืดเราก็ไนท์ทริปเข้าเมืองไปหาข้าวกินกันเลย เย็นนี้เราอยากกินโรตี ชื่อร้านโรตีชาวเกาะ ตั้งใจจะกินเล่นๆ แล้วเตรียมมาม่าไปต้มที่บ้านอีกคนละห่อเผื่อหิว ซัดกันไปสามคนสี่แผ่น น้ำปั่นอีกคนละแก้ว อิ่มตื้อเลย ไม่ต้องกินมาม่าแล้ว ขนาดลืมกินข้าวกลางวันกันด้วยนะวันนี้ อิ่มแล้วนั่งเล่นสักพักก็ปั่นกลับมานั่งเล่นอคูเลเล่ร้องเพลงกันต่อ ทริปนี้แบกน้องอุ๊คไปเล่นคุ้มเลย จริงๆ อยากชวนปั่นไนท์ทริปรอบเกาะอีกสักรอบ ถ้าเพื่อนไม่เจ็บน่าขี่จริงๆ 

วันสุดท้าย ไม่มีอะไรมาก ตื่นสายๆ ขี่ออกมาหาข้าวกินแล้วก็ขี่เรื่อยๆ มาเช็คเวลาเรือ มีเรือช้าออกบ่ายโมงครึ่ง มีเวลาเหลืออีกสามชั่วโมงก็แวะหาหาดแถวท่าเรือผูกเปลนั่งเล่นนอนเล่นกัน เช้านี้ไม่ล้างแผล กะไปทำแผลตอนขึ้นฝั่งภูเก็ตแล้ว จะได้แล้วก็นั่งรถกลับสบายๆ






ระหว่างรอเรือก็เดินเล่นเก็บภาพไปเรื่อยๆ คนอื่นกลัวแดดก็หลบกันไป





หาดรอบเกาะส่วนใหญ่ทางด้านใต้เป็นหาดปนหิน เวลาน้ำลงแห้งลงไปเยอะเลย แต่น้ำขึ้นก็เต็มถึงตลิ่ง วันนี้เราโชคดีเจอจังหวะน้ำลงพอดี เลยมีที่นั่งเล่นนอนเล่น 

ปูลมเยอะมาก แต่ถ่ายไม่ทัน เวลามันเดินหนีเราได้ยินเสียงหึ่งๆ เลย


ได้เวลาขึ้นเรือแล้ว วันนี้น้องพับเราสามคันได้นั่งบนหลังคาด้านหลังตรงคนขับพอดี มัดให้อย่างดิบดี เรือเป็นเรือหางยาวเครื่องยนต์หกสูบใหญ่มาก ไม่น่าเชื่อว่าใช้คนโหนตลอดการเดินทาง พอเรือออกพ้นหัวเกาะ ทั้งคลื่นทั้งลมกระหน่ำคนนั่งด้านหัวเรือเปียกไปทั้งตัว รถเราอยู่บนหลังคาด้านหลังยังเปียกหมดเลย น้ำทะเลด้วย ดีทีพี่คนขับเอาเชื่อกมัดไว้อย่างดี ไม่งั้นมีสิทธิกลิ้งตกทะเลแน่ๆ



ประมาณ1ชัวโมงก็ถึงฝั่งภูเก็ต เราแวะล้างแผลที่อนามัย และขี่กันอีกประมาณ 17 โลก็ถึงขนส่ง บขส. ออก 17.30 น. แต่ไม่ทราบว่า พขร. ขับดีหรือหลับใน ขับมาถึงสายใต้ใหม่ 6.30 น. 13 ชม.เต็ม ความเร็วอยู่แถวๆ 60-70 ตลอดทาง ถนนก็ว่างมาก ไม่มีรถติดเทศกาลเลย เราเลยต้องขี่ผ่าการจราจรอีกสิบกว่าโลกลับบ้าน เป็นอันจบทริป ไปทะเลสี่วันไม่โดนน้ำทะเลเลย แต่สนุกดี

ขอสรุปข้อมูลนิดหน่อย ในแบบการท่องเที่ยวด้วยจักรยาน

เรื่องที่พักบนเกาะ
กางเต๊นท์ได้สบาย ที่หาดว่างๆ เยอะแยะ อยากกางตรงไหนก็กางไปเลย ขอน้ำจืดชาวบ้าน ชาวประมงได้หมด หรือตามหน่วยราชการเยอะครับ แต่ที่กางเต๊นท์แบบมีห้องน้ำ มีลานกางเต๊น ตามรีสอท บังกะโล เท่าที่ดูไม่มี ถ้าอยากสบายหน่อย มีห้องน้ำห้องท่าสะดวกคงต้องยอมเช่าบังกะโล

กิจกรรมบนเกาะ พวกดำน้ำตื่นบนเกาะยาวน้อย เท่าที่ดูไม่น่าจะมีอะไรให้ดู แต่มีเช่าเรือประมงออกไปเที่ยวเกาะรอบๆ ราคา 1500-2000 ถ้าไปคนเดียว ไปแถวรีสอทหาดป่าทราย มีขายทัวร์จอย หัวละ 600 ออกไปเที่ยวเกาะ ดำน้ำรอบๆ
สำหรับคนชอบตกปลา ตามหัวแหลม กองหิน สะพานท่าเรือน่าจะมีปลาชุมพอสมควร
ทางจักรยานมีวิ่งวนได้รอบเกาะ มีทางแทรคมันๆ สำหรับเสือภูเขา ขี่ได้ทั้งวัน ถ้ายังไม่พอข้ามเรือไปขี่เกาะยาวใหญ่ได้อีกวันค่าเรือข้ามไปมา ไม่กี่ตัง
อาหารการกิน  อุดมสมบูรณ์ ราคาไม่แพง อาหารทะเลต้องหาสั่งตามเรือประมงจะถูกมากๆ
บอกเลยว่าบนเกาะไม่สวยครับ จะหาหาดทรายขาว น้ำใส มองออกไปสุดขอบฟ้า ไม่มีเลย แมีแต่มองออกไปก็มีเกาะเล็กเกาะน้อยรายรอบ ทะเลสีไม่ฟ้า ฟ้าก็ไม่ฟ้า ขาวๆ ขุ่นๆ ขี่เหล่มักๆ แต่ธรรมชาติสวย สงบ ชีวิตชาวบ้านน่ารักดี เหมาะกับการมาพักผ่อน หายใจทิ้งมากกว่า ขอจบดีกว่า สวัสดีเกาะยาวน้อย คงได้มีโอกาสพบกันอีก