Saturday 24 October 2015

Mini trip ลำปาง แจ้ซ้อน แม่เมาะ Part 2

23-25 ตุลาคม 2558 mini trip ลำปาง - แจ้ซ้อน - แม่เมาะ Part 2

ลำปาง - แจ้ซ้อน - แม่เมาะ Part 1

 11.30 น. กินข้าวเช้าอิ่มกันแล้ว แดดร้อนกำลังดีก็ออกเดินทางได้ ล้อหมุนสามแยกเมืองปาน กลับไปลำปาง60กิโลเป็นทางลงซะส่วนใหญ่ แต่ดูด้วยสายตามันจะหลอกตา ปั่นกันแบบสบายๆ ความเร็วอยู่แถว25ถึง30ตลอดทาง แวะร้านกาแฟร้านเดิมแก้ง่วง และมาแวะซื้อข้าวแต๋นร้านดังของอำเภอก่อนถึงตัวเมือง5กิโล พอถึงตัวเมืองเราออกขวาตรงไปแม่เมาะจากนี้ไปขึ้นเนินตลอด ทำเอาล้าไปตามๆกัน


 ขี่กันกลางแดด พระอาทิตย์ตรงหัวเลย จากแจ้ซ้อนมาลำปาง เป็นทางลาดลงน้อยๆ ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่ร้อนมาก กว่าจะถึงลำปางก็เพลียแดด ล้ากันหมดแล้ว

พ้นตัวเมืองลำปางมาเจอเขาหลวงรอต้อนรับอยู่ สูงตะหง่านขวางหน้า ขั้นยาวๆเกือบสองโล ทำเอาอยากเปลี่ยนใจแวะนอนสวนสาธารณะตีนเขา แต่ไม่มีร้านอาหารสักร้าน ถามปั๊มน้ำมันบอกว่าลงเขาไปก็มีร้านอาหารแล้ว ตัดสินใจข้ามเขาไปหาข้าวกินก่อน ปั่นขึ้นเขาแข่งกับรถบรรทุกพ่วงยังไม่ทันเหนื่อยก็ไหลลงแล้ว ตอนเหนื่อยๆ หิวๆ อะไรๆมันก็หลอกตาไปหมด เคยขึ้นเขาปักธงชัยจากทับลานขึ้นยาว5กิโลตอนบ่าย รถติดยาวเป็นทางปั่นไปสูดควันไอเสีย กลิ่นเบรคไหม้ไป แป๊ปเดียวหมดสภาพไปตามกัน เคยไต่เขากันยาวๆเป็นสิบโลยังเฉยมาเจอเนินปักแค่ห้าโลเข็ดจนตาย

พอข้ามเขามาก็เจอร้านข้าวพอดี ไม่หาร้านอื่นแล้ว หิวกันตาลาย  พออิ่มแล้วฟ้าก็เริ่มมืด เรายังเหลืออีกเกือบยี่สิบโลถึงโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เลยต้องเปลี่ยนแผนไปหาที่นอนแถวตัวอำเภอแม่เมาะแทน ระยะทางแค่9กิโล ได้ที่นอนเป็นโฮมสเตย์ คิดคนละ150บาท เอาไว้ก่อนละ เหนื่อยกันทุกคนแล้ว มืดๆหาที่นอนถูกๆลำบาก



ได้ที่นอนสบายๆ ก็นั่งเล่นกันจนดึก กว่าจะออกเดินทางกันก็สายโด่งเหมือนเดิม ทั้งกาแฟ ขนม แดดไม่ร้อนเราไม่ปั่น ออกมาแล้วก็ต้องหาอะไรใส่ท้องกันอีก ยังไม่เดินทางจริงจัง

แวะบ่อดักตะกอนก่อน สวยดี ถนนเส้นนี้ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าเราโชคดีมากที่มาวันอาทิตย์ ถ้าวันธรรมดาจะมีรถบรรทุก รถพ่วง รถขนคนงาน รถขนวัสดุก่อสร้างวิ่งกันขวักไขว่ รถติดยาวเต็มถนนไปหมดเพราะกำลังมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าโรงใหม่ และทางขวามือข้างทางก็กำลังสร้างทางจักรยานแยกจากถนนจากตัวอำเภอไปถึงทุ่งบัวตองเลย คาดว่าจะให้ทันวันปั่นเพื่อพ่อด้วย
เส้นทางไปโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ตรงๆ ร้อนๆ ชาวบ้านบอกว่า ถ้าวันธรรมดารถจะติดตลอดทาง เพราะกำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ รถขนคนงาน ขนวัสดุเยอะมาก
 เจอรถขนปูนจอดเต็มลาน คนกรุงตื่นเต้นกันใหญ่ รีบเข้าไปถ่ายรูปกัน





 จุดชมวิว มองเห็นบ่อถ่านหินด้านหลัง


 รถบรรทุกขนถ่านหิน เอามาจอดโชว์ ให้พวกเราใช้หลบร้อนได้ด้วย
 ความแรงไม่ได้อยู่ที่ขนาดล้อนะครับ อยู่ที่แรงขา

จากโฮมสเตยประมาณ13โลถึงโรงไฟฟ้า แล้วขึ้นจุดชมวิวทุ่งบัวตองอีก6กิโล น่าจะปั่นขึ้นเนินตลอด ถนนแถวนี้มันขึ้นๆลงๆ จนไม่รู้ว่าขึ้นหรือลง บางทีดูเหมือนลงแต่ขึ้น บางทีดูชันแต่ลงมันไหลเอาไหลเอา
 เจอเสื้อเจ้าถิ่นมาปั่นเล่นเหมือนกัน


ตรงนี้ไปชีวิตขาขึ้นๆๆๆๆ ชันดี แต่แป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว ขาลงทำความเร็วได้ถึง60เลย  ถ้าไม่ร้อนมันจะสวยมากจริงๆ


ถึงแล้วครับ ทุ่งบัวตอง แต่เรามาเร็วไปยังไม่บานเลย ปีที่แล้วก็บุกป่าลุยฝนฝ่าดอยไปโผล่กลางทุ่งบัวตองที่แม่สุริน แต่ก็เร็วไปยังไม่บานเหมือนกัน แต่ก็ดีเพราะว่านักท่องเที่ยวไม่เยอะ สงบเงียบดี






ขากลับเข้าเมือง ลงเนินยาวๆ หน้าบานกันลงมาเลย

ปั่นกันรวดเดียวมาแวะกินน้ำที่อำเภอแม่เมาะ ก่อนจะซิ่งไปกินข้าวร้านเดิมตีนเนินแล้วก็ไหลยาวเข้าเมืองลำปางเลย รถบัสออก2ทุ่มครึ่ง มีเวลาโอ่เอ้กันอีกนิดหน่อย เลยขี่เลาะแม่น้ำยมกันมาเรื่อยๆ


มาลำปางทั้งที ต้องมีรูปรถม้าด้วย



รูปดอกไม้คั่นเวลาซะหน่อย ทริปนี้ยังไม่ค่อยมีดอกไม้สวยๆเท่าไหร่

สะพานขาวยามเย็นสวยมาก

 แวะพักริมน้ำ อากาศยามเย็นนี่สบายจริงๆ



บรรยากาสยามเย็น สะพานขาว แวะกาดกองต้า ตลาดนัดคนเดินของลำปาง ก็เหมือนตลาดนัดทั่วๆไปตอนนี้มีกันทุกจังหวัด ตึกเก่าๆสวยๆสไตล์ฝรั่งก็เยอะ จีน ไทย ก็เยอะ แต่สายไฟ ป้ายโฆษณา ฯลฯ พุรุงพะรัง


ตึกเก่าๆ มันน่าจะสวยกว่านี้ได้นา
ซื้อขนมเสร็จเลี้ยวมาหาที่ว่างๆนั่งเล่นริมน้ำ ได้จังหวะเจอแสงสวยๆพอดี แต่พอมืดเท่านั้นแหละกองทัพยุงออกอาละวาดนั่งกันไม่ได้เลย


หลบไปนั่งกินเค๊กริมน้ำดีกว่า

จบตรงนี้เลยครับ นั่งรถกลับถึง กทม. เช้าก็เริ่มชีวิตลูกจ้างตามเดิม ชีวิตคงต้องดำเนินไปแบบนี้อีกนาน เป็นแค่เศษเสียวเวลาที่ผ่านไป การเดินทางที่จะเรียกว่าทัวริ่งได้เต็มปาก ออกไปเป็นเดือนๆ ผ่านหลายๆประเทศยังคงเป็นความฝันอีกนาน รอให้ร่างกายหมดแรง เมื่อนั้นคงหมดฝันไปแล้วเช่นกัน

ขอบคุณที่เข้ามาชมครับ