ดอยอินทนน์ ขุนวาง part1

พาซีอุยไปไต่ดอยอินทนน์ ขุนวาง ตอนที่1

เป็น mini trip สั้นๆแค่2คืนคุณภาพ เน้นๆ กันเลยครับ แผนการเดินทางง่ายๆ

• ออกเดินทาง - ตอนเย็นนั่งรถทัวร์ไปลงลำปาง 
• เช้าวันแรก - ปั่นจักรยานจากลำพูนไปจอมทอง 60 กิโลเมตร ทางเรียบๆ สบายๆ ขึ้นดอยอินทนน พักค้างแรมลานสน ที่กางเต๊นท์ของอุทยานฯ ขึ้นเขาตลอด ประมาณ 32 กิโล ถึงลานสนความสูงประมาณ 1400 เมตร
• เช้าวันที่สอง - ขี่รถเปล่ากันขึ้นยอดดอยอินทนน์ ระยะทางประมาณ 17 กิโล ขึ้นไปที่ความสูง 2600 เมตร  หาข้าวกิน แล้วลงมาเก็บของ ไต่เขากันอีกลูกไปนอนที่ขุนวาง  ระยะทางประมาณ 18 กิโล ต้องไต่เขาช่วงแรก 8 กิโล ถึงศูนย์อนุรักพันธ์พืชรองเท้านารี จากนั้นลงยาว 8 กิโลไปบ้านขุนวาง ก่อนจะไต่เขาชันๆสั้นๆไปที่ลานกางเต๊นโครงการหลวงฯ  พักหนึ่งคืน
• เช้าวันที่สาม - เดินเล่นชมดอกพญาเสือโคร่งกำลังบาน สายๆกลับมาเก็บของ แล้วลงยาวๆอีก เกือบ 20 กิโล และปั่นไปเข้าเชียงใหม่ ขึ้นรถทัวร์กลับ กทม.

เดินทางจริง เพื่อนๆไปสมบัติทัวร์ 4 คัน ผมนั่ง บขส ตามไป 6 โมงเช้า ฟ้ายังมืดอยู่เลย ไปรวมกลุ่มกันที่แยกดอยติ ลำพูน จากนั้นปั่นเข้าเมืองมาหาข้าวเช้ากินกันแถวตลาดเช้า แวะไปทำธุระเรื่องตั๊วรถขากลับ ต้องรอถึงแปดโมงกว่าพนักงานจะมา ระหว่างนี้ก็จัดการเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตากันจนเรียบร้อย ออกเดินทางเข้าเมืองมาชมวัดในเมืองลำพูน โดยเฉพาะพระธาตุหิริภูญชัย จนสายถึงออกเดินทางไปจอมทอง ใช้เส้นทางสายรอง วิวสวย วิ่งขนานไปกับลำคลอง เป็นทุ่งนาอุมดสมบูรณ์ เช้าๆอากาศดี เกือบสิบเอ็ดโมงก่อนเข้าจอมทอง แวะร้านกาแฟซดแก้ง่วง คลายร้อนกันสักหนึ่งรอบ

เจ้าซีอุย บวกกระเป๋าหลังสองใบ กระเป๋าหน้า รวมๆ น้ำหนักประมาณ 20 กิโล

จากพระธาตุจอมทอง เที่ยงกว่าๆ อากาศเริ่มร้อน ก่อนเดินทางต่อ แวะร้านข้าวซอยฝั่งตรงข้าม เป็นข้าวซอยน่องไก่ จัดกันไปคนละชาม ซื้อขนม เสบียงตุนไว้จาก 711 พวกไส้กรอก เบคอน เอาไปทอดกินเล่นกันตอนกลางคืน เพราะหลังจากนี้ไปจะไม่มีร้านสะดวกซื้อแล้ว

ไต่ขึ้นดอยกัน ช่วงแรกๆยังไม่ชันมาก อากาศแห้งแล้ง และร้อน มีแต่ต้นไม่แห้ง เหลืองไปหมด ไม่น่ารื่นรมเลย จนสิบกิโลสุดท้ายเริ่มเป็นป่าทึบ ยิ่งขึ้นสูงอากาศเย็นลงเรื่อยๆ แรงก็เริ่มหมด ฟ้าก็จะมืด เราพบว่า ข้าวซอยไก่ให้พลังงานไม่พอสำหรับการขึ้นเขา ต้องงัดขนมมากินกันตลอดทาง กว่าจะถึงสามแยกยัวซ่า ก็หกโมงแล้ว

 ทางขึ้นดอยฯช่วงแรก แห้งแล้ง และร้อนมาก เริ่มหมดอาลัยกับชีวิตแล้ว

หกโมงกว่า แผนการที่คิดว่าจะทำกับข้าวกิน ต้องเปลี่ยนแผนเป็นหากินตามร้านแถวสามแยกซัวย่าแทน มีของกินเยอะแยะ ราคาไม่แพงมาก ที่นิยมสุดก็หมูกะทะ  เราแวะกินข้าวเสร็จ ไปหาที่พัก ปรากฎว่าวันนี้ลานสนปิดปรับปรุง เราต้องไปกางเต๊นท์ตามที่เอกชนแถวๆนั้น คิดหัวละ 80 บาท

 กิจกรรมยามค่ำ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะสั่งหมูกะทะมากินกัน พวกเราก็ทำอะไรกินเล่น แกล้มกับแอลกอฮอล์นิดหน่อยแก้หนาว แล้วก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งคุยกัน วางแผนการปั่นพรุ่งนี้

กลางคืนอากาศไม่หนาวมากอย่างที่หวังไว้ ที่ลานกางเต๊นท์ตอนกลางคืนอุนภูมิอยู่แถวๆสิบเจ็ดองศา กำลังดี ไม่หนาวเกินไป ออกมานั่งเล่นนั่งคุย ทอดเบคอนกินกันหน้าเต๊นท์กันพักใหญ่ก่อนเข้านอน  

ทริปนี้เพื่อนๆใช้เต๊นท์ tent nature hike กันทั้งสี่หลัง เบา เล็กพกสะดวก เราเอาเปลมุ้งไป ต้องไปขอผูกเปลในห้องตากผ้า นอนอุ่นสบายทั้งคืนเลย

วันนี้คาดว่าเป็นวันที่หนักที่สุด วางแผนกันตื่นแต่เช้า ออกจากที่พัก 7 โมงไปกินข้าวแล้วก็ไต่ขึ้นจุดสูงสุดของดอยอินฯกัน แล้วค่อยกลับมาเก็บเต๊นท์ เก็บของ

แต่เราตื่นกันเช้ามาก อากาศไม่หนาว หกโมงก็สว่างแล้ว เลยมาต้มกาแฟ กินขนมกันเพลิน กว่าจะเตรียมพร้อมออกเดินทางก็แปดโมงกว่า ต้องเตรียมน้ำ ขนมกัน และอุปกรณ์กันหนาวติดไปให้พร้อยเพราะตอนขาลง ไหลลงมาจะหนาวมาก ส่วนขาขึ้นก็เหงื่อท่วมตามระเบียบ ข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน ระยะทางขึ้นชันก็จริง แต่ก็แค่แปดเก้าโลเอง สบายอยู่แล้ว 

เช้านี้ฟ้าใส่แจ๋ว ไม่หนาวอย่างที่คิด ทำท่าจะร้อนเอาซะด้วย ดอกพญาเสือโคร่งมีให้ชมตลอดทาง ช่วงแรกไปจนถึงด่านเก็บเงินทางยังไม่ชันมาก ไปได้เรื่อยๆ จากด่านไปอีก 9 กิโล ตรงนี้ละสุดยอดความชันแล้ว

ปั่นกันชั่วโมงละสามกิโล ขึ้นมาถึงก็หายเหนื่อย  เพื่อนเราคนนึงกลัวไม่ถึงยอดดอย ปั่นหายไปนานแล้ว ที่สำคัญเสื้อกันหนาวก็ฝากไว้กับรถคันนั้นหมดเลย

เรา4คนไปกันต่อจนถึงกิ่วแม่ปานสิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว หิวข้าว เลยหาข้าวเช้ากินกัน เหลือระยะทางอีกประมาณ 4 กิโล ถึงยอดดอย คิดๆแล้วก็เกือบสองชั่วโมง ไม่ทันแน่ และข้างบนก็ไม่มีอะไร เคยขึ้นกันแล้ว จึงตัดสินใจไม่ไปต่อ กลับดีกว่า โทรหาเพื่อนได้ความว่าถึงข้างบนเรียบร้อยแล้ว พวกเราเลยยอมหนาวกลับลงไปก่อน 

ขาลงไม่ยากอย่างที่คิด ทางที่นี่ถึงจะชันแต่ชันยาว ไม่หักศอก ไม่โค้งเยอะ ความเร็วสม่ำเสนอ ปล่อยไหลลงกันได้สบายๆ ไม่น่ากลัวเหมือนแถวแม่ฮ่องสอน

ต่อตอนสอง ที่นี่